วินาทีที่จบการแข่งขัน ศึกเทควันโด โอลิมปิกเกมส์ 2020 รุ่น 49 กก.หญิง รอบชิงชนะเลิศ ซึ่ง “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะสาวหมายเลข 1 ของโลก จากเมืองสุราษฎร์ธานี ปล่อยอาวุธเด็ดพิชิต “อาเดรียนา อิเกรเซียส เซเรโซ” สาวน้อยจากสเปน ไปแบบระทึก 11-10 คะแนน นั้น ก็ส่งผลให้เธอสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองแรกให้กับทีมเทควันโดไทย เหรียญทองแรกให้กับทัพนักกีฬาไทย และเป็นเหรียญทองที่ 10 ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ของประเทศไทยทันที
และนี่คือปูมหลังแบบย่อๆ พอสังเขปของ “น้องเทนนิส” สาวน้อยผู้เป็น “ฮีโร่” ของคนไทยทั้งประเทศ!!!
พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ มีชื่อเล่นว่า “น้องเทนนิส” เกิดเมื่อวันที่ 8 ส.ค.2540 เป็นบุตรสาวของ นายสิริชัย วงศ์พัฒนกิจ ศึกษานิเทศสำนักเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 บิดาเป็นนักกีฬาฟุตบอล, กรีฑา ว่ายน้ำ และนางวันทนา วงศ์พัฒนกิจ อดีตอาจารย์โรงเรียนวัดท่าไทร (ดิตถานุเคราะห์) เป็นอดีตนักกีฬาว่ายน้ำและผู้นำการออกกำลังกายแอโรบิก ซึ่งคุณแม่เสียชีวิตไปตั้งแต่ยังเด็ก
“น้องเทนนิส” เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวนพี่น้อง 3 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นครอบครัวกีฬาอย่างแท้จริง มีพี่สาวคนโต คือ เรืออากาศเอกหญิง กรวิกา วงศ์พัฒนกิจ (โบว์ลิ่ง) เป็นอาจารย์สอนนักเรียนนายร้อย ที่ รร.เตรียมทหาร และเป็นอดีตนักกีฬาว่ายน้ำ ที่ได้ไปแข่งขันกีฬาอาร์ราฟูราเกมส์ ที่ออสเตรเลีย และนายศราวิน วงศ์พัฒนกิจ (เบสบอล) อดีตนักกีฬาว่ายน้ำ ที่ได้ไปแข่งขันกีฬาอาร์ราฟูราเกมส์ ที่ออสเตรเลีย เช่นเดียวกัน และยังเป็นอดีตนักกีฬาเทควันโด เหรียญทอง ในการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ที่ จ.สุโขทัย และการแข่งขันกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติ ที่ จ.ขอนแก่น อีกด้วย
พาณิภัค สำเร็จการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาจาก รร.อนุบาลสุราษฎร์ธานี ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจาก รร.สุราษฎร์พิทยา จ.สุราษฎร์ธานี ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจาก รร.เทพลีลา กรุงเทพมหานคร และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปัจจุบันกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโท ที่ ม.กรุงเทพธนบุรี ซึ่งนอกจากจะเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยขวัญใจคนไทยแล้ว เธอยังเข้ารับราชการทหารอากาศ สังกัดกรมสวัสดิการทหารอากาศ ซึ่งก่อนมาแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ พาณิภัค ได้รับการติดยศเป็น “เรืออากาศตรีหญิง” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พาณิภัค เริ่มเล่นกีฬาเทควันโดตั้งแต่อายุ 9 ปี ได้รับการฝึกสอนจากโค้ชคนแรก คือ นายทรงศักดิ์ ทิพย์นาง ที่ยิมตาปีเทควันโด จ.สุราษฎร์ธานี เข้าสู่การเป็นนักกีฬาเทควันโดเยาวชนทีมชาติไทย ในปี 2554 ขณะที่อายุเพียง 13 ปีเท่านั้น จากการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 27 ที่ จ.อุตรดิตถ์ โดยคว้าเหรียญทอง รุ่นไม่เกิน 42 กก.หญิง และจากการเป็นนักกีฬาที่มีรูปร่างสูงและมีหน่วยก้านดี ทำให้ โค้ชเช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชาวเกาหลีใต้ จึงได้เรียกตัวเข้ามาฝึกซ้อมและคัดเลือกเป็นนักกีฬาเทควันโดตัวแทนทีมชาติไทย ซึ่งเธอได้รับแรงบันดาลใจจากพี่ชาย ในการเล่นกีฬาเทควันโด มีนักกีฬาเทควันโดในดวงใจ คือ “น้องวิว” เยาวภา บุรพลชัย ฮีโร่เหรียญทองแดง โอลิมปิกเกมส์ 2004 มีนักกีฬารุ่นพี่อย่าง ชนาธิป ซ้อนขำ เป็นแบบอย่างในการฝึกซ้อม
ส่วนผลงานการเล่นกีฬาเทควันโด ระหว่างปี 2554-2562 นั้น คว้ามาทั้งหมด 32 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน 7 เหรียญทองแดง โดย “น้องเทนนิส” เป็นเจ้าของเหรีญทองแดง ในโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่นครรีโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล คว้าแชมป์โลกมาแล้ว 2 ครั้ง ในรุ่น 46 กก.หญิง ปี 2015 ที่รัสเซีย และรุ่น 49 กก.หญิง ในปี 2019 ที่อังกฤษ นอกจากนี้ยังคว้าเหรียญทองในมหกรรมกีฬาต่างๆ มาแล้วทุกรายการทั้ง ซีเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์, กีฬามหาวิทยาลัยโลก รวมทั้งแชมป์รุ่น 46 กก.หญิง ในศึกยูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 2 ที่เมืองนานจิง ประเทศจีน ซึ่งเป็นคนที่ 2 ต่อจาก “น้องจูน” วรวงษ์ พงษ์พานิช คว้าเหรียญทอง ในศึกยูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 1 ที่สิงคโปร์ อีกด้วย
กระทั่งล่าสุด พาณิพัค ก็ได้สร้างประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ด้วยการคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์เหรียญแรกให้กับวงการเทควันโดไทย ภายใต้การนำของ “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมฯ และนับเป็นเหรียญทองเหรียญที่ 10 ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ของทีมนักกีฬาไทยอีกด้วย
กลายเป็น “ฮีโร่” คนใหม่ในดวงใจของคนไทยไปอีกคน!!!