นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่ทั่วประเทศประสบปัญหาภัยแล้งที่รุนแรง ขณะนี้ประชาชนในหลายจังหวัดทั่วทุกภาคเริ่มได้รับผลกระทบเกี่ยวกับการขาดแคลนน้ำ ทล. ได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนในความจำเป็นที่ต้องใช้น้ำ เพื่อการอุปโภคบริโภคใช้ในชีวิตประจำ จึงได้ร่วมมือกับการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) จัดโครงการ “กรมทางหลวง-การประปาส่วนภูมิภาค รวมใจต้านภัยแล้ง” ปีที่ 17 โดยการประปาส่วนภูมิภาคจะให้การสนับสนุนน้ำประปากับประชาชนผู้ประสบภัยขาดแคลนน้ำในการอุปโภคและบริโภคในชีวิตประจำวันผ่านหน่วยงานของกรมทางหลวงในสังกัด

โดยได้สั่งการให้สำนักงานทางหลวง 18 แห่ง แขวงทางหลวง 104 แห่ง และหมวดทางหลวง 581 แห่ง ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุมทั่วประเทศที่มีความพร้อมทั้งด้านบุคลากร เครื่องจักร ยานพาหนะ และวัสดุอุปกรณ์ในการช่วยเหลือประชาชนทันท่วงทีจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ดังนี้ 1.ให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่เตรียมการดูแลรถบรรทุกน้ำให้พร้อมใช้งานได้ทันที 2.ให้ทุกหน่วยงานประสานงานกับการประปาส่วนภูมิภาคในการขอรับการสนับสนุนน้ำประปา เพื่อนำไปใช้ในการปฏิบัติงานและแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบภัยแล้งทั่วประเทศที่ได้รับความเดือดร้อน

นายสราวุธ กล่าวต่อว่า 3.สนับสนุนทุกหน่วยงานในพื้นที่ในการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และ 4.กำกับให้เจ้าหน้าที่ที่ออกไปปฏิบัติงานปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันโรค (D-M-H-T-T-A) ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา มีเจลแอลกอฮอล์ติดตัว มีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนการปฏิบัติหน้าที่ หมั่นล้างมือ และรักษาระยะห่างระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติและระหว่างประชาชน

แม้ในช่วงนี้จะอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แต่การช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เป็นไปนโยบายของรัฐบาลและนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในการร่วมกันแก้ไขปัญหาวิกฤติการณ์ภัยแล้ง ซึ่งประชาชนหรือหน่วยงานใดประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ สามารถขอรับความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงทั่วประเทศ และสามารถขอความช่วยเหลือหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1586 (โทรฯฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.)