นิค แคนดี นักธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นหัวหอกของหนึ่งในกลุ่มทุ่นที่ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการของเชลซี ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อย่างเป็นทางการ ก่อนเส้นตายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น ออกมายืนยันว่า กลุ่มทุนของเขาพร้อมที่จะทุ่มเงินให้ทีมเสริมทัพเหมือนยุคที่ผ่านมา หากได้เข้ามาเป็นเจ้าของทีม “สิงห์สำอาง” และจะยังคงบริหารทีมตามโมเดลเดิมที่ “เสี่ยหมี” โรมัน อบราโมวิช อดีตเจ้าของทีมชาวรัสเซียทำไว้ต่อไป
แคนดี เผยผ่าน “เดอะ ซัน” ว่า “นโยบายของเราทั้งในสนามและการเสริมทัพมันง่าย ๆ นั่นคือทำตามโมเดลที่มีอยู่เดิม มันเป็นโมเดลที่ดีมาก ๆ และเราก็ไม่ได้รู้สึกแย่กับมัน 20 ปีที่ผ่านมา ทีมทำผลงานในสนามได้ดี เล่นฟุตบอลได้อย่างยอดเยี่ยม ได้แชมป์มาเกือบทุกรายการ ซึ่ง โรมัน อบราโมวิช ทำได้ดีมากในการบริหารทีมของเขา ถ้าผมได้เข้ามาบริหารทีม ผมจะให้ผู้บริหารเดิมอย่าง บรูซ บัค และ มารินา กรานอฟสกายา ทำงานต่อไป ถ้าพวกเขาอยากอยู่ต่อ ทำไมเราต้องเปลี่ยนสิ่งที่ดีอยู่แล้วด้วย? ผมคิดว่าเราไม่ควรเป็นเหมือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีเศรษฐีตระกูลเดียวเป็นเจ้าของ นี่ควรจะเป็นมิติใหม่แห่งการเป็นเจ้าของทีมฟุตบอล”
“เราไม่ควรมีเศรษฐีตระกูลเดียวเป็นเจ้าของ แล้วสุดท้ายพวกเขาก็เป็นที่รังเกียจของแฟนบอล เพราะพวกเขาไม่ทุ่มทุนสร้างทีม มันควรเป็นกลุ่มทุนที่รวมกลุ่มที่ดีที่สุดจากทั่วโลก เพราะเรามีแฟนบอลอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของโลก และนั่นคือสิ่งที่ผมได้พยายามทำอยู่ในการเสนอตัวซื้อการการของทีม” แคนดี ทิ้งท้าย
สำหรับกลุ่มทุนของ แคนดี ซึ่งมีผู้ร่วมทุนที่เปิดเผยแล้ว อาทิ กลุ่มทุน ฮานา ไฟแนนเชียล กรุ๊ป และ ซี แอนด์ พี สปอร์ต กรุ๊ป จากเกาหลีใต้ นั้น มีข่าวว่าได้ยื่นข้อเสนอเป็นมูลค่า 2,500 ล้านปอนด์ ขณะที่กลุ่มทุนอื่น ๆ ที่ยื่นข้อเสนอก่อนเส้นตายเวลา 21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น ยังมีกลุ่มทุ่นของตระกูลริคเก็ตต์ส เจ้าของทีมเบสบอลชิคาโก คับส์ และเคน กริฟฟิน มหาเศรษฐีจากสหรัฐ รวมถึงกลุ่มทุ่นของเซอร์ มาร์ติน โบรห์ตัน อดีตซีอีโอของลิเวอร์พูล และสายการบินบริติช แอร์เวย์ส และลอร์ด เซบาสเตียน โค ประธานสหพันธ์กรีฑาโลก และประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสหราชอาณาจักร
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มทุ่นซาอุดี มีเดีย กรุ๊ป และกลุ่มทุนของฮันส์ยอร์ก วีสส์ และ ทอดด์ โบห์ลี โดยในเบื้องต้นจะมีทีมงานของ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของเดิมชาวรัสเซีย รวมถึง “เรน กรุ๊ป” วาณิชธนกิจจากสหรัฐ จะเป็นผู้พิจารณาข้อเสนอจากทุกกลุ่ม
