น.ส.ณญาณี เผือกขำ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เตรียมปรับกลยุทธ์รองรับโลกการเงินยุคใหม่ 3 ด้าน ด้านแรกคือการใช้ระบบดิจิทัลและข้อมูลในการทำธุรกิจสำหรับอนาคต และพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินและบริการใหม่ๆ ผ่านช่องทางดิจิทัล เช่น การปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล คาดว่าจะเริ่มครึ่งปีหลังของปี 65, บริการผ่อนก่อนจ่ายทีหลัง (บีเอ็นพีแอล) ผ่านแอพ ซึ่งสามารถขอทำรายการผ่อนชำระสินค้าด้วยตนเอง รวมถึงการนำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมาใช้ในการทำการตลาดเฉพาะบุคคล
ส่วนด้านที่สอง คือ การสร้างความเติบโตโดยร่วมมือกับบริษัทในเครือกรุงศรี และพันธมิตร รวมทั้งการขยายธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อยสู่ภูมิภาคอาเซียน เช่น ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม โดยผสานความร่วมมือกับบริษัทในเครือกรุงศรี ในภูมิภาค และด้านที่สาม คือ การพัฒนาศักยภาพองค์กร โดยเฉพาะการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ก้าวทันโลกธุรกิจยุคใหม่ พร้อมสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานแบบยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ เพื่อดึงดูดบุคลากรที่มีศักยภาพสูง ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่โลกการเงินแห่งอนาคต
น.ส.ณญาณี กล่าวว่า กลยุทธ์ทั้งสามด้านนี้ จะเข้ามาเสริมศักยภาพของกรุงศรีคอนซูมเมอร์ โดยในปี 65 กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตร 312,300 ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 84,600 ล้านบาท และยอดสินเชื่อคงค้าง 149,600 ล้านบาท ทั้งนี้ในส่วนของบริการซื้อก่อนผ่อนจ่ายทีหลัง หรือบีเอ็นพีแอล จะเป็นบริการตัวใหม่ โดยปกติของกรุงศรีคอนซูมเมอร์จะมีบริการมีผ่อนชำระอยู่แล้ว แต่บีเอ็นพีแอลลูกค้าจะได้รับสินค้าไปก่อน แล้วค่อยมาจ่ายหลังจากนั้น 1-2 เดือน ซึ่งกรุงศรีคอนซูมเมอร์ กำลังออกแบบอยู่ว่าจะเป็นอย่างไร และใกล้จะออกมาในเร็วๆ นี้
“วันนี้ธุรกิจต้องเปลี่ยนใหม่หมด การมีผู้เล่นใหม่มาในตลาดถือเป็นเรื่องดี ถือเป็นการให้พัฒนาด้านบริการในไทย โดยในส่วนธุรกิจกรุงศรีคอนซูมเมอร์มีประสบการณ์สูง การมีผู้เล่นใหม่เข้ามาในตลาด สามารถเข้ามาเป็นพันธมิตรกันก็ได้”
สำหรับผลประกอบการของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ในปี 64 ยังคงเติบโตเป็นที่น่าพอใจ แม้ต้องเจอกับโควิด-19 ที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 285,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 76,500 ล้านบาท ยอดสินเชื่อคงค้าง 139,900 ล้านบาท เป็นผลจากการบริหารค่าใช้จ่าย พร้อมใช้เทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ควบคู่กับการดูแลคุณภาพสินทรัพย์ด้วยการบริหารความเสี่ยง และช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) บัตรเครดิต 1.1% และเอ็นพีแอลสินเชื่อส่วนบุคคล 2.8%