ภายหลังจากที่ประชุมสมัชชาใหญ่ ครั้งที่ 138 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ลงมติโหวตให้การรับรองกีฬามวยไทย และสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ (อิฟมา) เข้าเป็นสมาชิกแบบถาวร ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญที่คนไทยและคนทั่วโลก อาจจะได้ชมการแข่งขันกีฬามวยไทย ที่จะได้รับการบรรจุแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้นั้น
ล่าสุด พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร นายกสมาคมสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ หนึ่งในคีย์แมนคนสำคัญที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดความสำเร็จครั้งนี้ เปิดเผยว่า ส่วนตัวรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งมาก เป็นวันที่น่าภาคภูมิใจของคนไทย และของสมาชิกอิฟมาทั่วโลก เป็นเวลาเกือบ 30 ปีแล้วที่เราได้ร่วมกับรัฐบาล, คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ และองค์กรกีฬาต่างๆ ในการปฏิบัติตามครรลองของโอลิมปิก เพื่อให้กีฬามวยไทยเป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ทำให้ อิฟมา เป็นเพียงองค์กรเดียวเท่านั้น ที่ไอโอซีให้การรับรองด้านกีฬามวยไทย จึงนับว่าเป็นความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งที่สำคัญ
สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์นั้น จะประกอบด้วยกีฬาหลัก 28 ชนิดกีฬา และกีฬาบรรจุใหม่ อีก 5 ชนิดกีฬา ที่ไอโอซีและประเทศเจ้าภาพ จะร่วมกันพิจารณา โดยคัดเลือกจากกีฬาที่ได้การรับรองแบบถาวรจากไอโอซี และเป็นสมาชิกของ ARISF (Association of IOC Recognised International Sport Federations) ซึ่งปัจจุบัน อิฟมา เป็นสมาชิกของ ARISF แล้ว ดังนั้นการรับรองจากการที่ประชุมใหญ่ของไอโอซี เมื่อวันที่ 20 ก.ค. จึงหมายความว่ากีฬามวยไทย มีคุณสมบัติครบถ้วนทุกประการ พร้อมแล้วที่จะให้ไอโอซีและชาติเจ้าภาพ ได้คัดเลือกเข้าไปบรรจุเป็นกีฬาที่ใช้แข่งขันในโอลิมปิกต่อไป
พล.อ.อุดมเดช กล่าวต่อว่า อิฟมา ยังคงต้องมุ่งมั่นปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของไอโอซี อย่างต่อเนื่อง เช่น นักกีฬาต้องไม่ใช้สารต้องห้าม, ป้องกันการทุจริตในการแข่งขัน และการใช้แรงงานเด็ก ฯลฯ เป็นต้น และควรกำหนดมาตรฐานมวยไทย One Standard Muaythai (OSM) เพื่อให้ นักกีฬา, ผู้ฝึกสอน, ผู้ตัดสิน และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนได้ยึดถือปฏิบัติ เพื่อแสดงถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกีฬามวยไทย และควรสร้างชื่อเสียงให้กีฬามวยไทยเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น โดยการผลักดันให้มีการบรรจุกีฬามวยไทยในการแข่งขันระดับนานาชาติ ที่สำคัญต่างๆ ปัจจุบันที่สำเร็จแล้ว เช่น การแข่งขันกีฬายูโรเปี้ยนเกมส์ ที่โปแลนด์ และการแข่งขันกีฬาเวิลด์คอมแบตเกมส์ ที่ซาอุดีอาระเบีย ในปี 2566
“ผมและสมาชิกอิฟมาทุกคนรู้สึกไม่ต่างจากพี่น้องคนไทย ที่อยากเห็นกีฬามวยไทยในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ที่ประเทศฝรั่งเศส ในปี 2024 และเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) ได้ลงนามแต่งตั้งคณะอนุกรรมการการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยสู่โอลิมปิก ตามมติของบอร์ด กกท. โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการ และผมเป็นประธานคณะอนุกรรมการดำเนินการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยสู่โอลิมปิกเกมส์ ซึ่งเป็นความร่วมมือกันจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และบุคลากรที่สำคัญในวงการกีฬามวยไทย ทำให้ผมมีความมั่นใจมากว่า เป้าหมายของพวกเราที่อยากจะเห็นการแข่งขันกีฬามวยไทย ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว และกีฬามวยไทย จะเป็นกีฬาชนิดแรกในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่มีชื่อประเทศอยู่ในชื่อกีฬา นำมาซึ่งความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของคนไทยทุกคน ในเร็วๆ นี้แน่นอน” นายกสมาคมสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ กล่าว.