วันที่ 11 มี.ค. นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลัง ประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา ว่า ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่มีความห่วงใย และกำชับให้คณะทำงานเร่งดำเนินการ แก้ไขปัญหาให้ตรงจุด เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยให้เร่งรัดวางกรอบการทำงานภายใน 2 เดือน เพื่อสรุปสาเหตุ และแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ได้ผลในทางปฏิบัติให้ได้ภายในเดือน พ.ค.65
ทั้งนี้ จะมีการเสนอแก้ไขสัญญาตัวแทนฯ เพิ่มโทษทางแพ่ง โดยการผลักดันให้มีการแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพิ่มโทษผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายสลากฯ เกินราคา รวมถึงกระบวนการทางกฎหมายอื่นๆ ที่เป็นการเอารัดเอาเปรียบเกี่ยวกับการจำหน่ายสลากฯ ทำให้มั่นใจว่า จะสามารถแก้ปัญหาการจำหน่ายสลากฯ เกินราคา บรรเทาความรุนแรงลงได้ภายในเวลา 2 เดือน
นอกจากนี้ จะมีการทำงานแบบบูรณาการของคณะกรรมการและอนุกรรมการชุดต่างๆ ที่มีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบการจำหน่ายสลากฯ และการเบิกจ่ายสลากฯ ของที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ โดยการเพิ่มความเข้มข้นของกฎระเบียบ เริ่มจากทบทวนการมอบอำนาจรับสลากฯ แทน การใช้เอกสารที่ไม่ถูกต้อง การนำสลากฯ ไปจำหน่ายต่อ
“ที่ประชุมเสนอว่า ควรมีการปรับปรุงแก้ไขข้อสัญญาที่สำนักงานฯ ทำกับตัวแทนจำหน่ายสลากฯ โดยให้มีผลทางแพ่งเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความเข้มข้นในทางปฏิบัติยิ่งขึ้น รวมถึงยังเห็นด้วยกับแนวทางและมาตรการของสำนักงานสลากฯ ในการแก้ไขปัญหาสลากฯ เกินราคาระยะสั้น ที่จัดให้มีการจำหน่ายสลากฯ ผ่านโครงการ สลาก 80 และ ควรเพิ่มบทบาทและบูรณาการหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมทำการตรวจสอบการจำหน่าย เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ด้วย”
นายเสกสกล กล่าวว่า สำหรับการลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อ-จองล่วงหน้า ที่อยู่ระหว่างการเปิดให้ผู้ลงทะเบียนรายเดิม ยืนยันตัวตนและตรวจสอบการขายสลากฯ ตามราคาคาดว่าจะสามารถคัดกรองผู้จำหน่ายสลากฯ ตามราคาที่กำหนดได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ ส่วนของการจำหน่ายสลากฯ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์นั้น ถือเป็น แนวทางนี้เป็นแนวทางที่ดีและควรเร่งดำเนินการ เพราะเป็นวิธีการที่สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจน สามารถบันทึกและจัดเก็บข้อมูลการซื้อขายสลากฯ เมื่อถูกรางวัลก็มีระบบแจ้งเตือน โดยเบื้องต้นจะต้องมีการบริหารจัดการแบบมืออาชีพ มีรูปแบบที่ง่ายต่อการใช้งาน และสามารถตรวจสอบได้