เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่วัดป่าพลาญเพชร ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ มีบรรดาพุทธศาสนิกชนจากหลายพื้นที่ ทั้งใน จ.ศรีสะเกษ และต่างจังหวัด แห่มาท่องเที่ยวและทำบุญไหว้พระ สะเดาะเคราะห์ ต่อชะตา เสริมบารมี อาบน้ำมนต์บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์หลวงปู่สรวง บนยอดเขาตามแนวเทือกเขาพนมดงรักอย่างคึกคักตลอดทั้งวัน เพื่อเสริมสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่า เมื่อได้อาบน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากบ่อน้ำดังกล่าวแล้ว จะประสบโชคดี แคล้วคลาดปลอดภัย อาการเจ็บป่วยจะทุเลาเบาบางลง ส่งผลทำให้จิตใจแจ่มใส ลดความทุกข์กาย ทุกข์ใจได้ จึงมีชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาที่วัดอย่างไม่ขาดสาย พร้อมทั้งได้พากันแห่กราบไหว้ขอพรพญางูใหญ่ หรือพญาศรีสุทโธนาคา ตามความเชื่อของแต่ละบุคคล

พระครูวัชรชยาภินันท์ เจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร (ธ) เล่าว่า วัดแห่งนี้เดิมเป็นสำนักสงฆ์ที่หลวงปู่สรวง ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เคยมาอาศัยอยู่เมื่อปี 2535 ซึ่งในขณะนั้น พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าเขา ยังไม่ได้ตั้งเป็นวัด มีเพียงหลวงปู่สรวง รูปเดียว ที่มานั่งสมาธิปฏิบัติธรรมอยู่ภายในกุฏิบนเขาแห่งนี้ ซึ่งปัจจุบันกุฏิหลังดังกล่าวได้ชำรุดทรุดโทรมเหลือเพียงเสาไม้ 4 เสา ทางวัดจึงได้บูรณะขึ้นใหม่ เพื่อให้สาธุชนที่ศรัทธาได้เห็นเป็นบุญตา และมีบ่อน้ำธรรมชาติอยู่ข้างกุฏิ ซึ่งเป็นบ่อน้ำที่มีน้ำตลอดทั้งปี ขนาดบ่อกว้าง 1.5 เมตร ยาวประมาณ 2 เมตร ใต้น้ำเต็มไปด้วยโขดหินสลับซับซ้อน และในขณะนั้น หลวงปู่สรวงได้เคยใช้น้ำในบ่อน้ำดังกล่าว ใช้ดื่ม กิน และอาบ เพียงรูปเดียวตลอดระยะเวลา จึงมีชาวบ้านที่เคารพศรัทธาหลวงปู่สรวง แห่มาอาบน้ำมนต์จากบ่อน้ำดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ.