นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า ขณะนี้ ได้เร่งเดินหน้าโครงการเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นโครงการต่อเนื่องของกรมเจ้าท่า ในการบูรณะชายฝั่งพื้นที่ภาคตะวันออก และแหล่งธุรกิจภาคการท่องเที่ยว ภายหลังจากกรมเจ้าท่าประสบความสำเร็จในการเสริมทรายชายหาดพัทยา จึงได้มีนโยบายเสริมทรายชายหาดบริเวณหาดจอมเทียน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีผลกระทบเรื่องการกัดเซาะค่อนข้างรุนแรง หากไม่เร่งดำเนินการ น้ำทะเลคงกัดเซาะเข้ามาถึงชายฝั่งที่ดินของประชาชนเป็นแน่นอน
ชายหาดจอมเทียน ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่ภาคพิเศษเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.ได้ประสานขอให้กรมเจ้าท่า ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ในปี พ.ศ. 2557 กรมเจ้าท่า ได้ทำการว่าจ้าง สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำรวจออกแบบเพื่อเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน ความยาวตลอดแนว 6.2 กม. ตั้งแต่บริเวณหน้าร้านอาหารลุงไสว – บริเวณแนวโขดหินหน้าสวนน้ำพัทยาปาร์ค วอเตอร์เวิลด์ ระยะที่ 1 มีความยาว 3,575 เมตร และระยะที่ 2 มีความยาว 2,855 เมตร
กรมเจ้าท่า ได้ทำการว่าจ้าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินโครงการฯ ระยะที่ 1 ดำเนินโครงการตั้งแต่เดือน พ.ค.63 – พ.ย.65 (900 วัน) โดยแหล่งทรายที่จะนำมาใช้ นำมาจากทิศตะวันตกของเกาะรางเกวียน ห่างชายหาดจอมเทียนออกไปในทะเล 15 กม. ปัจจุบัน มีความคืบหน้าไปอย่างมาก
หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะช่วยบูรณะฟื้นฟูชายหาดจอมเทียน ให้กลับมาสวยงาม และเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง จะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้สู่ชุมชน และประเทศ ให้สอดรับกับนโยบายภาครัฐ ในการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการท่องเที่ยวและการสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ต่อไป