เมื่อวันก่อนที่ 3 มี.ค. กรมควบคุมมลพิษได้รายงานคุณภาพอากาศบริเวณ ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.จองคำ พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) มีค่า 126 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ นอกจากนี้ ยังพบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM 10) มีค่า 141 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยคุณภาพอากาศของตัวเมืองแม่ฮ่องสอน มีค่าเกินมาตรฐานต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 แล้ว และมีแนวโน้มที่จะเกินค่ามาตรฐานต่อไปอีก หากยังไม่ยุติการเผาป่า และในวันที่ 3 มี.ค. พบจุดความร้อนเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน มากถึง 72 จุด

นายสุนทร กันทะมาลา นักอุตุนิยมวิทยาปฏิบัติการ สถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศที่มีหมอกควันปกคลุมตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เช้าวันนี้ ค่าทัศนวิสัยในการมองเห็นทางอากาศ วัดได้ดังนี้ เวลา 07.00 น. วัดได้ 1,800 เมตร, เวลา 08.00 น.วัดได้ 1,800 เมตร, เวลา 09.00 น.วัดได้ 1,900 เมตร และ เวลา 10.00–11.00 น.วัดได้ 2,000 เมตร ซึ่งค่าดังกล่าว ต่ำ และส่งผลกระทบต่อการบิน

โดยในวันเดียวกัน เวลา 09.30 น. หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 36 ได้จัดกำลังชุดปฏิบัติการดับไฟป่า ออกลาดตระเวน ในพื้นที่ป่า ด้านหลัง วัดถ้ำพระ ต.บ้านกาศ อ.แม่สะเรียง และได้ตรวจพบกลุ่มควันไฟป่า บนเทือกเขาหลังวัดดังกล่าว แต่ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ เนื่องจากพื้นที่เป็นภูเขาสูงชันและเป็นหน้าผา ชุดปฏิบัติการดับไฟป่าฯ จึงได้ทำแนวกันไฟเพื่อจำกัดพื้นที่ไม่ให้ไฟลุกลาม เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดับไฟป่าของ ฉก.ทพ.36 ระบุว่า พื้นที่ที่เกิดไฟป่า ส่วนใหญ่จะเป็นเทือกเขาสูงชันและเป็นหน้าผา ยากต่อการเข้าไปดับไฟป่า จึงทำได้แค่ทำแนวกันไฟไม่ให้ไฟป่าลามเข้าหาบ้านเรือนราษฎร ซึ่งในจุดนี้ ไฟป่าจึงยังคงเกิดต่อเนื่องและส่งให้มีหมอกควันปกคลุมไปทั่วพื้นที่ คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไป และกลุ่มเสี่ยง ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภท หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพรุนแรงควรปรึกษาแพทย์ สำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง หมายถึง เด็ก คนชรา หญิงมีครรภ์ และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ และโรคหัวใจและหลอดเลือด

ทางด้าน นางเทพิณ พงษ์วดี ประธานชุมชนกาดเก่า เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ขอวิงวอนให้ประชาชนหยุดการจุดไฟเผาป่าในช่วงนี้ เพื่อสุขภาพของประชาชนใน จ.แม่ฮ่องสอน เนื่องจากทุกวันนี้ บ้านได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยเฉพาะในเขตเทศบาล ในช่วงเช้าจะมีควันไฟแผ่กระจายปกคลุมพื้นที่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ควันไฟทำให้แสบตาต้องหยดตาอยู่บ่อย ๆ และยังมีปัญหาด้านเศรษฐกิจของจังหวัดอีกด้วย