สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ว่าประธานาธิบดีโวดลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ เมื่อช่วงรุ่งสางของวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็น 24 ชั่วโมงแรก หลังกองทัพรัสเซียเข้ามาปฏิบัติการทางทหาร ในภูมิภาคดอนบาสที่อยู่ทางตะวันออก ว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 137 ราย รวมทั้งทหารและพลเรือน นอกจากนั้น ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน ผู้นำยูเครนประกาศ “การระดมพลครั้งใหญ่ทั่วไป” ทั้งประเทศ โดยควรเสร็จสิ้นภายในเวลา 90 วัน พร้อมทั้งการเรียกระดมกำลังพลสำรองและทหารเกณฑ์ทั้งหมด “เพื่อตอบโต้เพียงลำพัง” กับการรุกรานของรัสเซีย
ด้านสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) รายงานการลี้ภัยของชาวยูเครนมากกว่า 100,000 คนในวันแรกของการสู้รบ ส่วนใหญ่เดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้าน คือ โปแลนด์ มอลโดวา โรมาเนีย และฮังการี
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวในตอนหนึ่งของการประกาศปฏิบัติการทางทหาร เมื่อวันพฤหัสบดี ยืนยันว่า รัสเซียไม่มีเป้าหมายยึดครองยูเครน ทว่ารัฐบาลมอสโก “ไม่มีทางเลือกอื่น” และ “จะตอบสนองอย่างทันท่วงที หากมีกองกำลังภายนอกพยายามแทรกแซง” พร้อมทั้งเตือนว่า “ความพยายามโจมตีรัสเซียจะนำไปสู่ผลลัพธ์อันเลวร้ายต่อผู้รุกราน”
อนึ่ง รัฐบาลมอสโกเรียกร้องให้องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ซึ่งสหรัฐเป็นสมาชิกหลัก ตอบสนองต่อ “หลักประกันความมั่นคง” ที่รวมถึงการไม่ขยายอิทธิพลทางทหารในฝั่งตะวันออก และการไม่รับยูเครนเป็นสมาชิกนาโต “เพื่อยุติการคุกคาม” ต่อความมั่นคงของรัสเซีย แต่นาโตและสหรัฐไม่ตอบสนอง.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES