ใครที่เป็นคอเกมฟุตบอลตระกูล FIFA คงจะทราบข่าวที่ว่าทาง EA อาจตัดสินใจเลิกใช้ชื่อเกมฟุตบอลของตัวเองว่า FIFA อีกต่อไป ทำให้มีความเป็นไปได้ที่เกม FIFA จะสิ้นสุดที่ FIFA 22 เท่านั้น

สำหรับสาเหตุที่การเป็นพันธมิตรกันระหว่าง สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) กับ EA อาจยุติลง มีข่าวหลุดออกมาจากพนักงานในบริษัทของ EA ว่า เพราะทาง EA ไม่พอใจในสิ่งที่ FIFA มอบมาให้กับเงินจำนวนมหาศาลที่ต้องเสียไป

EA จ่ายค่าลิขสิทธิ์ภาพลักษณ์ให้กับ FIFA เพื่อใช้เป็นชื่อเกม รวมถึงการใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ ของทัวร์นาเมนต์ที่จัดโดย FIFA อย่างฟุตบอลโลกแต่เพียงผู้เดียวมาตั้งแต่ปี 1993 เพื่อใช้เป็นจุดแข็งเหนือคู่แข่งคนสำคัญอย่าง PES แต่หลังจากที่ PES เปลี่ยนชื่อเป็น eFootball และปรับไปเป็นเกม Free to play แล้ว ก็ทำให้ FIFA ไร้คู่แข่ง จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสียเงินมากมายให้กับ FIFA

นอกจากนั้นข่าวที่หลุดออกมายังอ้างถึง แอนดรูว์ วิลสัน ซีอีโอของ EA ที่ต้องการยุติข้อตกลงใบอนุญาตกับ FIFA และพิจารณาเปลี่ยนชื่อแฟรนไชส์เกมฟุตบอลยอดนิยมไปใช้ชื่ออื่น ทาง วิลสัน มองว่าข้อตกลงกับ FIFA เป็นการเสียเงินที่ได้รับผลตอบแทนไม่คุ้มค่ากัน

“สิ่งที่เราได้รับจาก FIFA ในปีที่ไม่มีฟุตบอลโลก ก็คือตัวอักษรสี่ตัวที่ด้านหน้ากล่องเท่านั้น”

แม้ว่าข้อตกลงของ FIFA จะทำให้ EA สามารถเข้าถึงฟุตบอลโลกที่จัดขึ้นทุก ๆ 4 ปี แต่ทางบริษัทยังมีข้อตกลงสิทธิ์การใช้งานอื่น ๆ อีกกว่า 300 ฉบับ เช่นการขออนุญาตใช้ชื่อและความคล้ายคลึงของผู้เล่น สโมสร และลีกต่าง ๆ โดยไม่ต้องทำข้อตกลงกับ FIFA

ในทางกลับกันการเป็นพันธมิตรกับ FIFA สร้างข้อจำกัดทำให้ EA ไม่สามารถพัฒนาเกมฟุตบอลให้ก้าวไปไกลกว่าเดิมได้ อาทิ การสร้างโหมดการเล่นฟุตบอลที่ต้องการให้แต่ละข้างมีมากกว่า 11 คน ซึ่ง FIFA ไม่อนุญาตให้ทำ การเป็นพันธมิตรกับแบรนด์อื่น ๆ เพื่อที่จะเพิ่มขอบเขตความสามารถให้ EA สามารถทำเกมฟุตบอลที่มีความลึกและกว้างกว่าเดิม

“ฟีฟ่าเป็นเพียงชื่อบนกล่อง แต่พวกเขากีดกันความสามารถของเราที่จะขยายไปสู่พื้นที่ ๆ ผู้เล่นต้องการ”

นอกจากนั้น ยังมีข่าวหลุดออกมาว่า FIFA ต้องการเงินเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากของเดิม ในข้อตกลงใหม่ระหว่างพวกเขากับ EA ซึ่งอาจมีมูลค่ามหาศาลถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในระยะเวลา 4 ปี ทำให้ทาง EA ต้องการลดค่าใช้จ่ายตรงนี้

อย่างไรก็ดี วิลสัน ยืนยันว่าเรื่องเงินไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญที่สุด แต่มันเป็นเรื่องของความสามารถในการส่งมอบเกม และประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับแฟน ๆ ในช่วงเวลาที่เหมาะสม หลังการเจรจาระหว่าง EA กับ FIFA ที่ต้องการต่อยอดด้วยการนำแฟรนไชส์เกม FIFA ไปผูกรวมเป็นบริการใหม่เพิ่มเติม เช่นการเพิ่มส่วนที่เป็นไฮไลต์ฟุตบอล หรือสร้างผลิตภัณฑ์ดิจิทัลอย่าง NFT ได้ถูกปฏิเสธโดย FIFA ซึ่งมองว่าเกมก็ควรจะอยู่ในลักษณะของเกมเท่านั้น

สัญญาฉบับปัจจุบันระหว่าง EA กับ FIFA จะหมดอายุหลังจากฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ เตะเสร็จสิ้นในวันที่ 18 ธ.ค. นี้ แม้ทาง EA ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า หากไม่ได้ใช้ชื่อ FIFA แล้ว จะเปลี่ยนไปเป็นชื่ออะไร แต่ได้มีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า EA Sports FC เพื่อใช้เป็นชื่อซอฟแวร์เกมคอมพิวเตอร์และเกมออนไลน์ ในสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปไปแล้ว เมื่อเดือน ต.ค. ปีก่อน ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า เกมฟุตบอลของ EA อาจเปลี่ยนไปใช้ชื่อว่า EA Sports FC

งานนี้เราอาจได้เห็นการแต่งตัวยังไงก็ได้เพื่อลงไปเตะบอล ไม่ว่าจะใส่ชุดว่ายน้ำ ใส่สูท ชุดสไปเดอร์แมน ฯลฯ หรือการนำนักกีฬาดัง ๆ ของกีฬาชนิดอื่น อาทิ ราฟาเอล นาดาล, ลูอิส แฮมิลตัน, เลบรอน เจมส์ มาลงสนามเตะบอลในเกมฟุตบอลชื่อใหม่ก็เป็นได้ รวมทั้งอาจได้เห็นโหมดเตะบอลแบบ 15 VS 15 และได้เห็นการนำไฮไลต์ฟุตบอลมาใส่ไว้ในเกม รวมทั้งผลิตภัณฑ์ดิจิทัลอย่าง NFT.