“บิ๊กชาย” นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานเทคนิคสมาคมกีฬามวยสากลจวกยับระบบการจัดการเรื่องการรับส่งนักกีฬามวยไม่ดี มีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน แถมเวทีฝึกซ้อมที่เจ้าภาพจัดไว้ให้ก็ไกลและเล็กมาก สั่งซ้อมต่อในหมู่บ้านนักกีฬา ย้ำ 4 นักชกไร้ปัญหาเรื่องคุมน้ำหนัก ลุ้นผลการจับสลากประกบคู่ ที่จะชี้แววมยุราได้ขณะที่ 2 นักชก “สด-แต้ว” สุดคึก เผยกำลังใจดีมาก เพราะมีข่าวดีจะได้ติดดาวตั้งแต่ก่อนบินมาญี่ปุ่น ลั่นต้องโชคครั้งที่ 2 ด้วยการคว้าเหรียญโอลิมปิกให้ได้

ความเคลื่อนไหวของทีมกำปั้นไทยก่อนขึ้นสังเวียนในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ล่าสุดขุนพลเสื้อกล้ามชาย-หญิงทั้ง 4 คน คือรุ่นเฟเธอร์เวตชาย (57 กก.) “สด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี,รุ่นฟลายเวตหญิง (51 กก.) “เฟี้ยว” จุฑามาศ จิตรพงศ์,รุ่นไลต์เวตหญิง (60 กก.) “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี และรุ่นเวลเตอร์เวตหญิง (69 กก.)  “ครีม” ใบสน มณีก้อนภายใต้การคุมทัพของ “บิ๊กชาย” สมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานพัฒนาเทคนิคสมาคมกีฬามวย และผู้จัดการทีม และโค้ชทั้ง 3 คน “แซม” กามนิตย์ นารีรักษ์ ,เพิก พึ่งปัญญา และ “แต๊ก”  ชัยชุมพล ชำนาญมาก ยังคงฝึกซ้อมเข้มภายในหมู่บ้านนักกีฬา ด้วยการทบทวนเชิงกับทีมชาติฟิลิปปินส์ และ เวียดนาม

หลังการซ้อม “บิ๊กชาย” นายสมชาย พูลสวัสดิ์ เปิดเผยว่า สั่ว กำปั้นไทยไม่ไปเวทีซ้อมที่ทางเจ้าภาพจัดไว้ให้ เพราะดูแล้วเวทีไม่ค่อยดีมีขนาดเล็ก ซึ่งหลายชาติก็เลือกที่จะไม่ไปเช่นกัน โดยจะลงมาซ้อมในบริเวณใกล้ๆ กับไทย อีกอย่างการเดินทางก็ไกลใช้เวลากว่า 40 นาทีดูแล้วนักกีฬาจะเพลียมากกว่าได้ประโยชน์จากการไปซ้อมที่เวที ที่สำคัญระบบการจัดเรื่องเวลารับส่งยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่มีความแน่นอนมีการปรับเปลี่ยนทุกวัน สำหรับกีฬาประเภทอื่นไม่รู้แต่ของมวยเป็นแบบนี้ ซึ่งตนได้หารือกับทางสต๊าฟโค้ชและนักมวยแล้วต่างลงความเห็นว่าซ้อมภายในหมู่บ้านนักกีฬาน่าจะเหมาะและดูแลง่ายกว่า ส่วนเรื่องอื่นๆ ตอนนี้ไม่มีอะไรที่น่าห่วงน้ำหนักทุกคนได้ตามแผน ที่เหลือคือดูผลการจับสลากถึงจะพอเดาได้ว่าอนาคตนักชกไทยจะเป็นอย่างไร

ขณะเดียวกัน 2 กำปั้นไทยที่ได้รับข่าวดีตั้งแต่ก่อนเดินทางมาอย่างเป็นทางการ ซึ่งก่อนหน้านี้แม้มีกระแสข่าวแต่ก็ยังไม่ชัดเจน ล่าสุด “น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี นักชกสาวความหวัง อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการบรรจุเข้ารับราชการสังกัดทหารเรื่อ โดยเจ้าตัว กล่าวว่า ถือเป็นข่าวดีอย่างมากตนใฝ่ฝันที่จะบรรจุเข้ารับราชการของกองทัพเรือมานานแล้ว เพื่อหาความมั่นคงหลังจากที่รับใช้ชาติมาอย่างยาวนาน ถือเป็นความฝันแรกก่อนเดินทางมาร่วมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งหากได้เหรียญโอลิมปิกกลับไปถิอเป็นกำลังสองต่อในการเป็นนักชกทีมชาติต้องขอขอบคุณสมาคมกีฬามวย นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมฯ นายสมชาย พูลสวัสดิ์ รวมถึงผู้บัญชาการกองทัพเรือที่ให้การสนับสนุนตนมาตลอดจนตนมีวันนี้

ส่วน “เจ้าสด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี นักชกจอมเก๋า เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนอยู่ระหว่างการอบรมนายทหารประทวนเพื่อเลื่อนฐานะเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร รุ่นที่ 48 ประจำปีงบประมาณ 2564 โดยมีการเริ่มอบรมตั้งแต่ตอนที่เก็บตัวโค้งสุดท้ายที่มวกเหล็กก่อนเดินทางมาแล้ว หากผ่านการอบรมซึ่งคาดว่าหลังจากจบการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์พอดี ซึ่งตนจะได้เหรียญหรือไม่ก็ตามก็จะได้เลื่อนเป็นทหารชั้นสัญญาบัตรทันที ซึ่งก็นับเป็นข่าวดีและสร้างกำลังใจให้กับตนอย่างมาก อย่างน้อยทำให้ตนมีความั่นคงในชีวิต ทั้งนี้ก็ต้องขอบคุณทุกฝ่ายทั้งสมาคมกีฬามวย นายสมชาย พูลสวัสดิ์ และ ผู้บัญชาการทหารบกที่ให้โอกาสและให้การสนับสนุนตนมาตลอด