นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเตรียมการเปิดให้บริการและการบริหารโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และสถานีกลางบางซื่อ ผ่านการประชุมทางไกล (Video Conference) ว่า กระทรวงคมนาคม เริ่มเก็บค่าโดยสารรถไฟชานเมืองสายสีแดง ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.64 ปัจจุบันรถไฟสายสีแดงมียอดผู้โดยสารไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้โดยเฉพาะเส้นทางสายตะวันตก (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) จึงมีการวิเคราะห์ข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้อง และทำการปรับรูปแบบตารางการเดินรถไฟให้มีความเหมาะสมกับปริมาณผู้ใช้บริการ

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง โดยมีรอบความถี่ที่ 20 นาทีต่อขบวนในช่วงเวลาเร่งด่วน (07.00-09.30 น. และ 17.00-19.30 น.) และรอบความถี่ที่ 30 นาทีต่อขบวนนอกช่วงเวลาเร่งด่วน ทั้งนี้ได้มอบให้เก็บข้อมูลการให้บริการในทุกมิติ นำมาวิเคราะห์ และบริหารการเดินรถ เพื่อให้รถไฟฟ้าสายสีแดงเป็นทางเลือกให้กับประชาชนใช้ในการเดินทางมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ปลอดภัย ประหยัด ลดค่าครองชีพ พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้รับทราบผลการประเมินคุณภาพสถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดง และสถานีกลางบางซื่อ เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการขนส่งทางราง ตลอดจนระบบการเดินทางเชื่อมต่อ และประเมินระดับคุณภาพ

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ผลการประเมินความพร้อมการให้บริการของรถไฟชานเมืองสายสีแดง และความพร้อมสถานีกลางบางซื่อยังอยู่ในเกณฑ์ระดับพอใช้ ซึ่งได้สั่งการให้ รฟท. ดำเนินการปรับปรุง 5 ด้าน ได้แก่ ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกและสภาพกายภาพ ด้านระบบการให้ข้อมูลและป้ายสัญลักษณ์ ด้านระบบเชื่อมต่อการเดินทาง ด้านความปลอดภัย และด้านการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เช่น แก้ไขปัญหามอเตอร์ไซค์รับจ้างเถื่อน และการบุกรุกพื้นที่ เป็นต้น เพื่อยกระดับการให้บริการให้มีประสิทธิภาพต่อไป

นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ที่ประชุมได้รับทราบความพร้อมเข้าสู่ระบบตั๋วร่วมของโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง โดยพร้อมจะเปิดให้บริการชำระค่าโดยสารด้วยบัตรเครดิต หรือเดบิต (Europay Mastercard and Visa : EMV) หรือ EMV Contactless ได้ภายในเดือน มี.ค.65 และรวมถึงกำหนดการจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 50 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 20 ระหว่างวันที่ 26 มี.ค.-6 เม.ย.65 ณ สถานีกลางบางซื่อ อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ รฟท. เน้นการสร้างความรับรู้ของประชาชน โดยประชาสัมพันธ์ให้มีความถี่ที่มากขึ้น เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

รวมถึงประชาสัมพันธ์ในเรื่องเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟชานเมืองสายสีแดงเพื่อไปสู่จุดหมายปลายทาง เช่น การเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน รถไฟฟ้าสายสีม่วง รวมถึงพัฒนาระบบ Feeder และการดำเนินการเชิงรุก เช่น การขยายพื้นที่การจำหน่ายบัตรโดยสารในจุดต่างๆ เช่น สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย สถานที่ทำงาน ศูนย์การค้า เป็นต้น รวมถึงการพัฒนาระบบตั๋วร่วมให้สามารถเชื่อมต่อกับการบริการระบบขนส่งสาธารณะประเภทอื่นๆ ให้เป็นรูปธรรมต่อไป พร้อมกันนี้ได้สั่งการเรื่องการลดผลกระทบจากการเดินรถไฟทางไกลเมื่อเปิดการให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง โดยให้สำรวจเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ให้รอบด้าน เพื่อเสนอทางเลือกการดำเนินการในกรณีต่างๆ ให้ประชาชนรับทราบและพิจารณาถึงผลดีและผลเสีย เพื่อที่จะได้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจอย่างรอบด้านก่อนจะดำเนินการต่อไป.