ความคืบหน้าเกมอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ของทีมฟุตบอลทีมชาติไทย หลังจากที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยกเลิกของเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลระงับมาตรการ “เทสต์แอนด์โก” ชั่วคราว โดยเดิมทีนั้น ได้ติดต่อทีมชาติที่มาอุ่นเครื่องสำหรับชุดใหญ่ คือ ทีมชาติคูเวต ส่วนชุดอายุไม่เกิน 23 ปี คือ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) นั้น

“พ่อบ้านโจ” นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กล่าวว่า ฟีฟ่าเดย์เดือน ม.ค. สมาคมฯ ตั้งใจอย่างมากจะจัดขึ้นให้ได้ แต่จำเป็นต้องยกเลิกเพราะเป็นไปไม่ได้ ที่ทีมที่จะมาแข่งกับทีมชาติไทย จะมายอมกักตัว 5 วัน 10 วัน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มาตรการ “เทสต์แอนด์โก” ถูกกลับมาใช้อีกครั้ง ดังนั้นจึงเดินหน้าสำหรับจัดเกมอุ่นเครื่องในฟีฟ่าเดย์เดือน มี.ค. แต่ทีมที่จะแข่งกับไทย ก็จะไม่ใช่ทีมเดิม นั่นคือ คูเวต สำหรับชุดใหญ่ และ ยูเออี สำหรับชุด 23 ปี แล้ว เพราะแต่ละทีมก็มีโปรแกรมของตัวเอง สมาคมฯ ก็มองหาทางเลือกอื่นต่อไป ได้ติดต่อทาบทามอยู่ หากได้การตอบรับมา ก็จะไปถาม โค้ช และ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม ต่อไป

“ถ้าสถานการณ์ไม่เลวร้ายหนัก และยังมีเทสต์แอนด์โก เราก็จะเดินหน้าจัดอุ่นเครื่องในเดือน มี.ค. โดยจะต้องไปคุยกับแต่ละทีม ส่วนเรื่องการจะไปเล่นเป็นทีมเยือนนั้น คู่แข่งก็อยากให้ไทยไปแข่งที่บ้านเขาเช่นกัน แต่เราคำนวณเวลาแล้ว อยากเล่นในบ้านมากกว่า เพื่อไม่ให้กระทบกับลีกมากนัก การเจรจาหาทีมช่วงนี้จึงเน้นที่เตะในไทย ถ้ามีความคืบหน้าก็จะแจ้งให้โค้ช และผู้จัดการทีมพิจารณาต่อไป” นายพาทิศ กล่าว

ส่วนกรณีที่ ไทย เสนอตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขันเอเชี่ยนคัพ รอบคัดเลือก และเป็นเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ในกลุ่มที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กับ ลีโอ เชียงราย ร่วมแข่งขัน หลังจากที่ องค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (วาดา) ปลดแบนประเทศไทย นั้น นายพาทิศ กล่าวย้ำว่า ในศึกคัดเอเชี่ยนคัพ ในเดือน มิ.ย. มีประเทศที่เสนอตัวเป็นคู่แข่งกับไทยค่อนข้างเยอะ ขณะเดียวกัน เมื่อไทย เสนอตัวจัดทั้ง เอเชี่ยนคัพ และ แชมเปี้ยนส์ลีก ก็คงยากที่ เอเอฟซี จะให้ทั้ง 2 รายการ ถ้าจะได้ก็น่าจะเป็นรายการใดรายการหนึ่ง เป็นไปไม่ได้ ที่จะได้ทุกอย่าง เพราะมีประเทศเสนอตัวเยอะ.