ปาทริซ มอตเซเป ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลแอฟริกา (ซีเอเอฟ) ออกมายืนยันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่าศึกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ 2022 ที่ประเทศแคเมอรูน ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ระหว่าง โมร็อคโก กับผู้ชนะคู่ของ อียิปต์ กับ ไอวอรี โคสต์ ซึ่งเดิมมีกำหนดจะฟาดแข้งกันที่สนามโอเลมเบ สเตเดี้ยม ในกรุงยาอุนเด ในวันอาทิตย์ที่ 30 ม.ค. นี้ จะถูกย้ายไปเตะกันที่สนาม อาห์มาดู อฮิโฌ สเตเดี้ยมในเมืองเดียวกันแทน หลังเกิดโศกนาฏกรรมแฟนบอลเสียชีวิตถึง 8 ศพ จากการพยายามแย่งกันเข้าสนามโอเลมเบ สเตเดี้ยม ก่อนเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ทีม “หมอผี” เจ้าภาพ เอาชะ คอโมโรส 2-1 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ในเกมดังกล่าว เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นเมื่อแฟนบอลกว่า 50,000 คน พยายามแย่งกันเข้าสู่สนามโอเลมเบ สเตเดี้ยม ที่มีความจุ 60,000 คน เพื่อชมเกมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทั้งที่มีการกำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วยการจำกัดจำนวนผู้ชมอยู่ที่ 80 เปอร์เซ็นต์ของความจุ ส่งผลให้เกิดการเหยียบกันจนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ศพ และบาดเจ็บอีก 38 คน โดยในจำนวนนั้นมีหลายคนที่อยู่ในอาการสาหัส และจากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ “ซีเอเอฟ” ตัดสินใจย้ายสังเวียนแข้งเกมรอบ 8 ทีมที่จะลงเตะที่สนามดังกล่าว ไปเล่นกันที่สนามอีกแห่งในกรุงยาอุนเดแทน

ประธาน “ซีเอเอฟ” ระบุผ่านแถลงการณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า “เราต้องมั่นใจว่าแฟนบอลทุกคนจะปลอดภัย นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเรา เราจะไม่ยอมให้เกิดเหตุอันจะทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของแฟนบอลที่สนามแข่งขันอีก เราต้องมีมาตรการฉุกเฉิน และต้องดำเนินการในทันที ดังนั้น ผมจึงทำการเรียกประชุมเพื่อขอคำแนะนำจากบรรดารองประธานของผม ผมต้องการได้เห็นรายงานเหตุการณ์ว่ามันเกิดอะไรขึ้น จนเป็นเหตุให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิต และเราจะมีมาตรการฉุกเฉินอย่างไรบ้านเพื่อรับประกันว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก เราต้องรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นร่วมกัน”

“มันต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาในทันที เพื่อสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และระบุตัวคนที่ไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่จนทำให้เกิดเหตุร้ายดังกล่าวขึ้นให้ได้ เราต้องการรายงานของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภายในวันศุกร์นี้ และเกมที่เดิมกำหนดจะเล่นกันที่สนามโอเลมเบ สเตเดี้ยม ในวันอาทิตย์ จะย้ายไปเเล่นกันที่สนามอาห์มาดู อฮิโฌ สเตเดี้ยม แทน”

เครดิตภาพ : REUTERS