กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 “ราชบุรี-สุพรรณบุรี-กาญจนบุรี” ร่วมกันแถลงข่าวความพร้อมการจัดแข่งขันจักรยานรายการใหญ่ ภายใต้ชื่องาน “ปั่นวิถีใหม่ ตามรอยทวารวดี” พร้อมดึงศิลปินและนักปั่นชื่อดังโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ บนเส้นทาง 3 เส้นทาง 3 จังหวัดตลอดเดือน ก.พ.นี้ โดยมี นายอังกูร ศีลาเทวากูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นประธานงานแถลงข่าวกิจกรรม “ปั่นทางไกลตามรอยอารยธรรมทวารวดี” พร้อมด้วย นายชูชีพ พงษ์ไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี, นายศศิน ดิศวนนท์ ผู้ช่วยท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี และนายสมจินต์ ชาญกระบี่ ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษ 7 (อพท.7) ที่บริเวณกาดวิถีชุมชนคูบัว อ.เมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี

นายอังกูร ศีลาเทวากูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า ปัจจุบันแนวโน้มเรื่องการท่องเที่ยว สุขภาพและสิ่งแวดล้อม เป็นกระแสหลักที่สนใจและถูกพูดถึงเป็นจำนวนมาก กิจกรรมการปั่นจักรยานเป็นกิจกรรมหนึ่งที่สามารถตอบโจทย์เรื่องการท่องเที่ยว สุขภาพและสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงการท่องเที่ยวทางเลือก อาทิ การท่องเที่ยวโดยชุมชน (CBT) การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Creative Tourism) ซึ่งสามารถสร้างการรับรู้และประสบการณ์ใหม่ให้แก่นักท่องเที่ยวในปัจจุบัน ทั้งนี้ พื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 มีความโดดเด่นด้านวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์ เช่น ประวัติศาสตร์ยุคทวารวดี รวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์ที่หลากหลาย อาทิ ไททรงดำ ไทยวน ลาวครั่ง ซึ่งนับเป็นจุดแข็งของทรัพยากรการท่องเที่ยวที่มีร่วมกัน สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในพื้นที่

สำหรับจังหวัดราชบุรี จะเป็นการปั่นจักรยาน จ.ราชบุรี-จ.สุพรรณบุรี (วัน 13 ก.พ.) โดยผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในสมัยทวารวดี อาทิ ชุมชนโบราณสถานบ้านคูบัว พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ (วัดขนอน) มหรสพการละเล่นชั้นสูงที่เก่าแก่ ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมจากยูเนสโก ในปี 2550

ขณะที่ นายชูชีพ พงษ์ไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า ในส่วนของเส้นทางของ จ.สุพรรณบุรี-จ.กาญจนบุรี (วันที่ 27 ก.พ.) จะเริ่มจากวัดเขาพระศรีสรรเพชญาราม ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยทวารวดี ผ่านพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือที่รู้จักกันว่า “หลวงพ่ออู่ทอง” ผ่านพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง สถานที่จัดแสดงลูกปัดอู่ทอง อันเป็นโบราณวัตถุที่ทรงคุณค่าในอดีต และมีการต่อยอดส่งเสริมให้ชาวบ้านในเขตอำเภออู่ทอง ได้ใช้องค์ความรู้ในอดีตมาประยุกต์ผลิตลูกปัด เพื่อเป็นสินค้าของที่ระลึกแก่ผู้สนใจและนักท่องเที่ยว และนำภูมิปัญญาไปสร้างสรรค์เป็นขนมลูกปัดสลัดงา ที่มีรสชาติเอร็ดอร่อย

ส่วน นายศศิน ดิศวนนท์ ผู้ช่วยท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า นับเป็นการดีที่ จ.กาญจนบุรี ได้รับการปรับเป็นพื้นที่สีฟ้า พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว โดยเส้นทางการปั่นจักรยานจาก จ.กาญจนบุรี-จ.ราชบุรี (วันที่ 20 ก.พ.) เริ่มจากอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ ซึ่งสร้างขึ้นตามความเชื่อของพุทธศาสนานิกายมหายาน ในราวพุทธศตวรรษที่ 18 ตรงกับรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรขอมหรือเขมรโบราณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเก่า โบราณสถานพงตึก ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ในเขต อ. ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี อดีตเป็นชุมชนทางด้านการค้าในสมัยทวารวดี

ทางด้าน นายสมจินต์ ชาญกระบี่ ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษ 7 (อพท.7) กล่าวว่า การปั่นจักรยานเพื่อการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ ดำเนินการภายใต้มาตรการแนวทางปฏิบัติ ประกาศและคำสั่งป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ซึ่งกำหนดจัดขึ้น 3 เส้นทาง โดยองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) สำนักงานพื้นที่พิเศษ 7 (อพท.7) ภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และอารยธรรมทวารวดี ซึ่งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ภายใต้ชื่องาน “ปั่นวิถีใหม่ ตามรอยทวารวดี” เพื่อให้เกิดการบูรณา การท่องเที่ยว ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาการอย่างยั่งยืน และเกิดการกระจายรายได้ให้แก่ชุมชนและผู้ประกอบการท่องเที่ยว

สำหรับกิจกรรมการปั่นจักรยาน ทั้ง 3 เส้นทาง จะมีศิลปิน นักปั่น ที่มีชื่อเสียงเข้าร่วมกิจกรรมปั่นจักรยาน ได้แก่ “ติ๊ก ชิโร่” มนัสวิน นันทเสน, “หวานหวาน นางฟ้าสายปั่น” อรุณณภา พาณิชจรูญ และ “แมว” จิรศักดิ์ ปานพุ่ม ส่วนผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม สามารถดูรายละเอียดทาง Facebook Fan Page : ปั่นวิถีใหม่ ตามรอยทวารวดี และ www.dvaravatinewnormal.com