สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ว่าหลวงปู่ทิก เญิ้ต หั่ญ หรือ ติช นัท ฮันห์ ตามที่นิยมเรียกทับศัพท์ภาษาอังกฤษ พระมหาเถระนิกายเซนชื่อดังระดับโลก และนักเคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพ ชาวเวียดนาม มรณภาพอย่างสงบ ระหว่างการจำพรรษาอยู่ที่วัดตื่อเฮี้ยว ในเมืองเว้ ทางตอนกลางของเวียดนาม รวมอายุได้ 95 ปี ตามการเปิดเผยอย่างเป็นทางการของ “หมู่บ้านพลัม” สถานปฏิบัติธรรมนานาชาติ ซึ่งหลวงปู่ติช นัท ฮันห์ ก่อตั้งขึ้นในฝรั่งเศสเป็นแห่งแรก
The International Plum Village Community of Engaged Buddhism announces that our beloved teacher Thich Nhat Hanh passed away peacefully at Từ Hiếu Temple in Huế, Vietnam, at 00:00hrs on 22nd January, 2022, at the age of 95. #thichnhathanh #Buddhism
— Thich Nhat Hanh (@thichnhathanh) January 21, 2022
ทั้งนี้ หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ มีชื่อก่อนบรรพชาว่า เหวียน ซวน เบ๋า เกิดเมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2469 ที่จังหวัดกว๋างจิ ทางตอนกลางของเวียดนาม เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เมื่ออายุ 16 ปี มีความมุ่งมั่นฟื้นฟูพุทธศาสนาในเวียดนาม แต่กลับไม่ได้รับความสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐ ซึ่งในเวลานั้นยังอยู่ภายใต้การเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส
Thich Nhat Hanh, the Zen Buddhist monk, poet and peace activist who in the 1960s came to prominence as an opponent of the Vietnam War, died at 95 surrounded by his followers in the temple where his spiritual journey began https://t.co/Zix04lbDhx pic.twitter.com/SsvAsIejZb
— Reuters (@Reuters) January 21, 2022
หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ มีความเชี่ยวชาญด้านการสื่อสารภาษาต่างประเทศหลายภาษา หลังสำเร็จการศึกษาหลักสูตรด้านศาสนาจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน และมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในสหรัฐ หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ เดินทางกลับมายังเวียดนาม เมื่อปี 2506 เพื่อร่วมการเคลื่อนไหวทางศาสนา ต่อต้านปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐในสงครามเวียดนาม
My father with his friend and ally, #ThichNhatHanh, who died this week. I celebrate and honor Thich Nhat Hanh’s life and global influence for peace. @nytimes: “A prolific author, poet, teacher and peace activist, Thich Nhat Hanh was exiled from Vietnam after opposing the war… pic.twitter.com/XHrNuE3imo
— Be A King (@BerniceKing) January 21, 2022
ในระหว่างนั้น หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ เดินทางกลับไปยังสหรัฐอีกครั้ง และได้มีโอกาสพบกับนายมาร์ติน ลูเธอร์ คิง ซึ่งสนับสนุนการเคลื่อนไหวของหลวงปู่ติช นัท ฮันห์ และคิงยังเป็นผู้เสนอชื่อหลวงปู่ติช นัท ฮันห์ เข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพด้วย อย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกัน รัฐบาลเวียดนามใต้ขึ้นบัญชีดำหลวงปู่ติช นัท ฮันห์ ห้ามเดินทางกลับประเทศ
หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ จึงตัดสินใจลี้ภัยอย่างเป็นทางการในฝรั่งเศส และก่อตั้งหมู่บ้านพลัม ที่มืองบอร์โดซ์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส เป็นชุมชนสงฆ์และสถานปฏิบัติธรรม เผยแพร่หลักคำสอนนิกายเซน และมีการขยายสังฆะหรือชุมชนออกไปอีกมากกว่า 10 ประเทศ รวมถึงในไทย
จนกระทั่งในช่วงบั้นปลายชีวิต ซึ่งสุขภาพของหลวงปู่ติช นัท ฮันห์ ทรุดโทรมลงตามวัยด้วย รัฐบาลเวียดนามอนุญาตให้หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ เดินทางกลับประเทศได้ และจำพรรษาอยู่ที่อยู่ที่วัดตื่อเฮี้ยว “ภายใต้การสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด”.
เครดิตภาพ : REUTERS