นายวีรพงษ์ ธนากิจจานนท์ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายกีฬายานยนต์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ในปี 2021 นับเป็นปีแห่งความท้าทายของทีมแข่งยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ที่มากกว่าชัยชนะเพราะการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทยในปีที่ผ่านมา เป็นอีกฤดูกาลการแข่งขันที่สนุกและเร้าใจในแบบ Revs Your Heart ต้องตัดสินตำแหน่งแชมป์ประจำปีในการแข่งขันเรซสุดท้าย โดยมีบัลลังก์แชมป์ 2 รายการหลักอย่าง OR BRIC SUPERBIKE ที่ควบรวมกับ FMSCT All Thailand Superbike เข้าไว้ในรายการเดียวเป็นเดิมพัน ภายใต้รูปแบบการคำนวณคะแนนที่แตกต่างกันสำหรับตำแหน่งแชมป์ประจำฤดูกาล 2021

สำหรับฤดูกาลใหม่ 2022 ทีมยามาฮ่า ตั้งเป้าจะต้องเป็นแชมป์ให้ได้อีกครั้งและเราหวังในทุกๆ รายการที่ลงชิงชัย ไม่เพียงแต่ในรายการ OR BRIC SUPERBIKE ชิงแชมป์ประเทศไทย เท่านั้น รายการ เอเชียโรด เรซซิ่งแชมเปี้ยนชิพ 2022 ก็เป็นเป้าหมายใหญ่ที่เราต้องไปให้ถึงแชมป์ด้วยเช่นเดียวกัน โดยการฝึกซ้อมและแข่งขันที่ผ่านมาต้องแลกมาด้วยความมุ่งมั่นและความสามารถของทีมงาน ที่ต้องต่อสู้อย่างหนักทั้งในเรื่องของสภาพอากาศ รวมถึงคู่แข่งและปัจจัยอื่นๆ จากเรซสู่เรซ เรียนรู้และพัฒนาจากข้อมูลต่างๆ เพื่อยกระดับการทำงานของทีม เตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันในระดับที่สูงขึ้น

สำหรับการแข่งขันในปีที่ผ่านมา รุ่น Super Sport 600 cc. (SS1) ซึ่งเป็นไฮไลต์ของการแข่งขันท่ามกลางการขับเคี่ยวของนักบิดชั้นนำ สร้างความสนุกและเร้าใจให้กับแฟนความเร็วตลอดทั้ง 5 เรซ โดย YAMAHA THAILAND RACING TEAM สามารถคว้าดับเบิลแชมป์ในรุ่นนี้มาครองได้ทั้งรายการ OR BRIC SUPERBIKE 2021 และ FMSCT All Thailand Superbike 2021 จากผลงานระดับท็อปของ “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ #56 ดาวบิดแชมป์เอเชีย ที่ระเบิดฟอร์มอันร้อนแรง ก่อนจะจัดการคว้า 4 โพเดียม กับ 2 วินเนอร์โพเดียม ซึ่ง รัฐพงษ์ ได้โชว์ความแข็งแกร่ง ผงาดขึ้นครองบัลลังก์แชมป์ประจำปีได้อย่างยิ่งใหญ่ พาความสำเร็จมาสู่ทีมตอบแทนการซัพพอร์ตที่ดีจากแฟนๆ ค่ายยามาฮ่า

ทางด้านนักบิดมากประสบการณ์ อย่าง “ซุป” อนุชา นาคเจริญศรี #10 ต้องเจอกับความท้าทายในรุ่น Super Sport 600 cc. ที่เข้าร่วมชิงชัยเป็นปีแรก แต่สามารถทำผลงานได้ดีขึ้นตามลำดับ ด้วยประสบการณ์บนสังเวียนความเร็ว ซึ่งมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจและแชร์ข้อมูลให้กับเพื่อนร่วมทีม เป็นหนึ่งในจุดเด่นและบทบาทที่สำคัญของอนุชา โดยเฉพาะในเรซสุดท้ายที่ต้องออกสตาร์ตจากท้ายแถว ทว่าสามารถรีดฟอร์มเก่งไล่แซงคู่แข่งไต่ขึ้นมาจบการแข่งขันบนโพเดียม อันดับ 3

ส่วนการแข่งขันรุ่น SuperBike 1000 cc. ซึ่งเป็นรุ่นใหญ่สุดของรายการ OR BRIC Superbike โดย “ตี” อนุภาพ ซามูล #500 ยอดนักบิดมากฝีมือ สามารถตอกสถิติใหม่ของรายการ ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 34.421 วินาที ปิดฤดูกาลด้วยผลงาน 5 โพเดียม และ 2 วินเนอร์โพเดียม คว้ารองอันดับ 1 ทั้งรายการ OR BRIC Superbike และ FMSCT All Thailand Superbike

อีกทั้งยังมีส่วนสำคัญในการเก็บข้อมูลและร่วมพัฒนารถแข่งทั้งในเรื่องของเซตติ้งต่างๆ รวมถึงความเข้าใจคาแรกเตอร์ของยางที่ใช้สำหรับการแข่งขัน เพื่อเป็นแนวทางในการทำงานของทีม รวมถึงปรับรูปแบบการขับขี่ในแต่ละเงื่อนไข ร่วมกับทีมเมทอย่าง “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #24 อีกหนึ่งดาวบิดดีกรีแชมป์เอเชียรุ่น 250 แม้จะจบการแข่งขันด้วยตำแหน่งรองอันดับ 2 ในรุ่นนี้ ด้วยผลงาน 5 โพเดี้ยมในฤดูกาลนี้ ทว่า อภิวัฒน์ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น รวมถึงความชัดเจนในเป้าหมายของทุกๆ เรซ ที่ลงทำการแข่งขัน และทำหน้าที่ของตนอย่างสุดความสามารถ