การมีองค์กรกำกับดูแลการทำหน้าที่ จะกระทบต่อเรื่องสิทธิเสรีภาพในการทำงาน เนื่องจากเปิดโอกาสให้คนของภาครัฐเข้ามาแทรกแซงได้ และสภาพปัจจุบันที่ “ใครๆ ก็เป็นสื่อได้” เพราะโซเชียลมีเดีย ทำให้การกำกับดูแลที่เป็นรูปธรรมก็ทำได้ยากขึ้น ทางที่ดีเมื่อมีข่าวสารอะไรที่ต้องชี้แจง รัฐก็ใช้พื้นที่สื่อชี้แจงได้ หรือดำเนินการตามกฎหมายถ้าผิด
แต่ต่อมา มติ ครม.เมื่อ 11 ก.ค. ก็ผ่าน พ.ร.บ.นี้ อ้างว่า กฎหมายนี้ตราขึ้นตามหมวด 16 การปฏิรูปประเทศของรัฐธรรมนูญ เพื่อกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วย “การส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน” ซึ่งในปี 2565 ต้องรายงานความคืบหน้าของการปฏิรูปในด้านต่างๆ ต่อวุฒิสภา
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/01/1-100-1024x683.jpg)
ใจความหลักๆ คือ ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนย่อมมีเสรีภาพในการเสนอข่าวสารหรือการแสดงความคิดเห็นตามจริยธรรมสื่อมวลชนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 35 แต่การใช้เสรีภาพนั้นต้องไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน คำถามคือ การนิยาม “ศีลธรรมอันดีของประชาชน” เชื่อมโยงกับความมั่นคงของ “รัฐบาล” หรือไม่
รวมทั้งเสนอข่าวนั้นจะต้องปฏิบัติตามจริยธรรมสื่อมวลชนด้วย เช่น การเสนอข้อเท็จจริงด้วยความถูกต้อง ครบถ้วน รอบด้าน และเป็นธรรม การให้ความเป็นธรรมแก่บุคคลซึ่งได้รับผลกระทบจากการเสนอข่าว หรือการแสดงความคิดเห็น เป็นต้น ซึ่งต้องมี “ประมวลจริยธรรม” ที่ไม่รู้ว่าใช่ของพวกสมาคมวิชาชีพหรือไม่
เสรีภาพของสื่อ ต้องไม่ขัดต่อหน้าที่ของปวงชนชาวไทยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน คำนี้ตีความได้อีก จะให้เข้าข้างรัฐก็ได้ว่า ถ้าตีข่าวความผิดพลาดของรัฐไปแล้วทำให้เกิดความไม่พอใจรัฐ ก็จับแพะชนแกะให้เข้าข่ายผิดหรือไม่ ..ส่วนที่ว่า ต้องเคารพ ไม่ปิดกั้นความเห็นต่างของบุคคลอื่น แล้วถ้าเห็นต่างจากรัฐ เขามีสิทธิพูดแค่ไหน
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/01/2-96-1024x683.jpg)
ประเด็นสำคัญคือ กำหนดให้มี “สภาวิชาชีพสื่อมวลชน” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองเสรีภาพในการเสนอข่าวสารหรือการแสดงความคิดเห็นของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน องค์ประกอบของสภาดังกล่าว มีใครบ้าง ? ครอบคลุมสื่อทุกประเภทหรือไม่ รวมถึงสื่ออินเทอร์เน็ต นักข่าวภาคพลเมืองอะไรต่างๆ จะดูแลอย่างไร
สภาวิชาชีพฯ ทำหน้าที่กำกับดูแลผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน ตลอดจนส่งเสริมและพัฒนาจริยธรรมสื่อมวลชน ก็มีคำถามอีกจริยธรรมสื่อในความหมายของรัฐคืออะไร ? แล้วจะมีการนำสื่อมาอบรมจริยธรรมแบบว่า “ข่าวแบบไหนควรนำเสนอ” หรือไม่ แต่ถ้ามองข้อดีส่วนนี้คือเรื่องการมีแนวทางสำหรับพวกยูทูบเบอร์ นักข่าวภาคพลเมือง
ประเด็นเรื่อง “ความมั่นคงของรัฐ” สำคัญและต้องจับตายิ่งยวด เป็นสิ่งที่ยังทำความเข้าใจกันได้ค่อนข้างลำบากในสังคมไทย เพราะมันกว้าง ไม่มีนิยามเป็นข้อๆ ว่าคืออะไรบ้าง อย่างข่าวหมูแพง หมูตาย มันเป็นการประจานความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐหรือไม่ แล้วเรียกว่าทำให้ประชาชนตื่นตระหนก กระทบความมั่นคงหรือไม่
หลังจากนี้จะต้องส่งร่างกฎหมายให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบ และส่งให้รัฐสภาผ่านกฎหมายต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่อยากให้ฝ่ายความมั่นคงหลักคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม มาตอบให้ชัดเรื่ององค์ประกอบคณะกรรมการฯ ขอบเขตการทำงาน หลักจริยธรรม และขอบเขตการนำเสนอข่าวของสื่อ
รอดูท่าทีขององค์กรภาควิชาชีพสื่อต่างๆ ที่ว่าจะออกมาในวันที่ 20 ม.ค.นี้ จะเอาอย่างไร.