จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก เพจคนอำเภอบ้านบึง ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพประกอบลงบนโลกสังคมออนไลน์ ที่หมู่บ้านซีวิลเลจ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พร้อมระบุข้อความว่า ถ้าจะขนาดนี้นะ ตากผ้าไว้หิมะเกาะหมดแล้ว โดยชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบจากการเผาไร่อ้อย พร้อมถ่ายรูปซากใบอ้อยที่ลอยบนอากาศและปลิวเข้าบ้าน จนมีผู้เข้ามาแชร์ข้อความ และวิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็นถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นนั้น จนทำให้คนในหมู่บ้านต้องใช้ชีวิตกันอย่างยากลำบาก

ผู้สื่อข่าวเข้าสอบถาม นายกฤษณนันท์ จันทรา อายุ 27 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว เปิดเผยว่า สาเหตุหลักที่ทำให้มีเศษซากอ้อยปลิวลอยบนอากาศ มาจากการเผาหญ้า และเผาไร่อ้อยของกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ และเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นติดต่อกันหลายวันแล้ว จนทำให้เสื้อผ้าที่ซักตากไว้เกิดความเสียหาย หากจะเผาก็ควรจะแจ้งให้รู้ล่วงหน้า เพื่อที่จะได้เก็บเสื้อผ้าหรือเก็บสิ่งของไว้ก่อน หากเป็นเมื่อก่อนยังพอรับไหว แต่ในปัจจุบันวิวัฒนาการณ์เครื่องมือต่างๆก็ได้เจริญมากขึ้น หลายพื้นที่ได้มีการใช้รถเกี่ยวอ้อยกันแล้ว ยิ่งในแถวภาคอีสานก็ใช้รถเกี่ยวอ้อยปีละครั้ง การบริหารในการจองคิวรถเกี่ยวอ้อยมันก็ไม่น่าจะยาก

ด้าน นายสมิทธ์ มุ่งดำเนินกิจ อายุ 43 ปี ที่เพิ่งกลับจากที่ทำงานกำลังขับรถเข้าบ้านพัก ระบายว่า รู้สึกแย่มากขับรถเข้าบ้านบนถนนเต็มไปด้วยซากซางอ้อยดำ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาช่วยดูแล เพราะชาวบ้านที่อยู่กันนับร้อยหลังเดือดร้อนจริงๆ นอกจากปัญหาในเรื่องการเผาอ้อย ส่งผลกระทบเรื่องฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 การที่ชาวบ้านและเกษตรกรเผาหญ้า และเผาไร่อ้อย ยิ่งทำให้สถานการณ์มลพิษทางอากาศเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเย็นที่มักจะมีเด็กๆ ออกมาวิ่งเล่นหน้าบ้าน ไม่สามารถทำได้เช่นเคย เพราะผู้ปกครองจะให้เด็กอยู่แต่ในบ้าน เพราะกลัวว่าจะเกิดการเจ็บป่วย อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ลงมาช่วยตรวจสอบและช่วยแก้ไขด่วน