สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ว่ากระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอลรายงานสถิติผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมในประเทศอย่างน้อย 850,968 คน เพิ่มขึ้น 1,118 คน ในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุดของวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 4 เดือน ขณะที่ยังคงเหลือผู้ติดเชื้อต้องรักษาตัวอยู่ในระบบอีกอย่างน้อย 6,563 คน จากจำนวนดังกล่าว 58 คนมีอาการหนัก เพิ่มขึ้น 8 คน ส่วนสถิติผู้เสียชีวิตสะสมมีจำนวนอย่างน้อย 6,446 ราย
ขณะที่สื่อท้องถิ่นหลายแห่งของอิสราเอลรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขยังไม่มองถึงขั้นล็อกดาวน์ แต่ต้องการให้รัฐบาลกลับมาบังคับใช้มาตรการควบคุมทางสังคม ที่รวมถึงการจำกัดจำนวนประชาชนใช้บริการตามสถานที่สาธารณะ ผ่านการตรวจสอบจาก "กรีน พาสส์" ซึ่งเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ยืนยันการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบแล้ว ติดโควิด-19 และหายป่วยแล้ว หรือมีผลตรวจคัดกรองเป็นลบไม่เกินระยะเวลาที่กำหนด หลังกลับมาบังคับใช้มาตรการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่ออยู่ภายในอาคาร เมื่อปลายเดือนที่แล้ว
ด้านนายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเนตต์ ผู้นำอิสราเอล กล่าวถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ซึ่งอิสราเอลยังคงใช้งานในฐานะวัคซีนหลักเพียงตัวเดียวจนถึงปัจจุบัน ว่ามีประสิทธิภาพต่อเชื้อกลายพันธุ์เดลตาที่กำลังแพร่ระบาดเป็นวงกว้างไปทั่วโลก "ต่ำกว่าที่คาดหวังไว้" จริงอยู่ที่วัคซีน "มีประสิทธิภาพ" ต่อเชื้อไวรัส และอิสราเอลเร่งจัดหาวัคซีนให้เพียงพอแก่ประชาชนทุกคน "แต่วัคซีนอย่างเดียวไม่เพียงพอ" และ "ใครที่เชื่อมั่นว่าวัคซีนอย่างเดียวจะแก้ไขวิกฤตินี้ได้ มันไม่ใช่แบบนั้น".
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES