สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ว่านักเรียนหลายร้อนคนในเมืองชิคาโก ซึ่งถือเป็นระบบโรงเรียนขนาดใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐ โดยมีนักเรียนอยู่ในระบบประมาณ 340,000 คน รวมตัวประท้วงเมื่อวันศุกร์ เรียกร้องการเรียนออนไลน์ และการยกระดับมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 สำหรับทั้งครูและนักเรียน ตลอดจนบุคลากรในโรงเรียน
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/01/GettyImages-1364673335-1024x682.jpg)
ในวันเดียวกัน นักเรียนประมาณ 600 คน ในเมืองบอสตัน ซึ่งมีนักเรียนอยู่ในระบบประมาณ 52,000 คน ออกมาเดินขบวนด้วยเรื่องเดียวกัน โดยมีการยื่นข้อเรียนร้องต่อภาครัฐ ขอให้มีการจัดการเรียนการสอนออนไลน์เป็นเวลา 14 วัน และมาตรการตรวจคัดกรองที่มีประสิทธิภาพกับทั้งครูและนักเรียน
Students in Boston and Chicago walked out of their classes on Friday to protest in-person learning as COVID-19 cases continue to rise. https://t.co/DAvS0dnKc1 pic.twitter.com/wmjpaPBof5
— ABC News (@ABC) January 15, 2022
ขณะที่ก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่วัน นักเรียนจากโรงเรียนหลายแห่งในนครนิวยอร์ก รวมตัวเดินขบวนประท้วงมาตรการด้านสาธารณสุขในสถานศึกษาที่ไม่มีประสิทธิภาพ และเรียกร้องการเรียนออนไลน์ชั่วคราว ส่งผลให้นายอีริก อดัมส์ นายกเทศมนตรีนคนนิวยอร์ก ซึ่งตอนแรกยืนกรานจัดการเรียนการสอนแบบปกติตั้งแต่หลังปีใหม่ กล่าวว่า เทศบาลกำลังพิจารณาแนวทางกลับไปเรียนออนไลน์อีกครั้ง
ปัจจุบัน เชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ “โอมิครอน” กลายเป็นสายพันธุ์หลักของวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ในสหรัฐ ซึ่งการที่เชื้อตัวนี้แพร่ระบาดง่ายและรวดเร็ว ส่งผลให้สถิติผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งแบบก้าวกระโดด โดยค่าเฉลี่ยผู้ป่วยโควิด-19 รายวันของสหรัฐ ณ เวลานี้ อยู่ที่ประมาณ 800,000 คน และจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลพุ่งเป็นสถิติด้วย.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES