สื่อท้องถิ่นในประเทศแคเมอรูน รายงานว่า ทัพนักเตะทีมชาติมาลี จำต้องยกเลิกการซ้อมในช่วงเช้าวันพุธที่ผ่านมา ก่อนเกม แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม F ซึ่งพวกเขาจะเจอกับ ตูนิเซีย ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน หลังเกิดเหตุยิงปะทะระหว่างกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดน กับกองกำลังของรัฐบาล ที่ตลาดกลางในเมืองบูอา ทางตะวันตกของประเทศแคเมอรูน ใกล้กับแคมป์เก็บตัวของทีม รวมถึงแคมป์ทีมชาติแกมเบีย

รายงานระบุว่า เหตุยิงปะทะดังกล่าวเกิดขึ้นที่ตลาดกลางเมืองบูอา ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองลิมเบ ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองเจ้าภาพจัดการแข่งขันศึกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ แค่ 13 ไมล์เท่านั้น โดยการปะทะส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีก 5 คน โดยที่กลุ่มกบฏดังกล่าวออกมาแสดงความรับผิดชอบว่าพวกเขาเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เกมระหว่าง มาลี กับ ตูนิเซีย ยังคงลงแข่งขันกันต่อไปตามกำหนดเดิม ก่อนที่จะเป็น มาลี ที่เฉือนชนะหวุดหวิด 1-0 ในที่สุด

แบลส ชามาโก นักสิทธิมนุษยชนซึ่งปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ เผยผ่าน “เดลี เมล์” สื่อดังในประเทศอังกฤษว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้มีการยิงปะทะกันไปทั่วเมือง นอกจากนี้เรายังได้ข้อมูลว่ามีการวางระเบิดในตลาดกลางเมืองบูอาด้วย มันเป็นการยิงปะทะกันของกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนกับกองกำลังรักษาความปลอดภัยของรัฐบาล โดยกลุ่มกบฏต้องการสร้างสถานการณ์รุนแรง เพื่อเป็นการยืนยันว่าไม่ควรมีการจัดการแข่งขันฟุตบอลแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ในพื้นที่ที่เป็นอันตราย”

สำหรับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในภูมิภาคตะวัตกของแคเมอรูน เกิดขึ้นอันเรื่องมาจากความขัดแย้งของกลุ่มกบฏที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งพูดภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ กับรัฐบาลซึ่งใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการ โดยมีจุดเริ่มต้นจากการประท้วงอย่างสงบเมื่อปี 2016 แต่กลับถูกรัฐบาลใช้กำลังปราบปราม กลุ่มผู้ประท้วงจึงเปลี่ยนเป็นกลุ่มกองกำลังกบฏติดอาวุธในอีก 1 ปีต่อมา โดยความรุนแรงที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 3,000 คน และมีมากกว่า 1 ล้านคนที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่ขัดแย้ง ขณะที่ก่อนหน้านี้ กลุ่มกบฏได้ออกมาเตือนไม่ให้มีการจัดการแข่งขันในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง ซึ่งรวมถึงเมืองลิมเบ แต่การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไป โดยที่รัฐบาลต้องใช้รถติดอาวุธลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยในพื้นที่โดยตลอด

เครดิตภาพ : REUTERS