“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ จบภารกิจการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” ที่ประเทศสิงคโปร์ คว้าแชมป์ สมัย 6 หลังจากรอบชิงชนะเลิศ นัด 2 เสมอ อินโดนีเซีย 2-2 รวมผล 2 นัด ชนะ 6-2

ทีมไทย รับเงินรางวัล กับเงินอัดฉีด รวมแล้ว 46 ล้านบาท เป็นอย่างต่ำ มาจาก พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ให้แล้วจากการผ่านเวียดนาม รอบรองฯ 10 ล้านบาท, “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม รวบรวมพันธมิตรได้ 26 ล้านบาท, เงินรางวัลจากสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน “เอเอฟเอฟ” ราวๆ 10 ล้านบาท

ทีมชาติไทย จะกลับไทย วันนี้ (2 ม.ค.65) ด้วยสายการบินเช่าเหมาลำ ไทยสมายล์ เที่ยวบิน WE8703 ถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เวลาไทย 14.50 น.

โดยหลังจากนี้โปรแกรมของทีมชาติไทย จะมีการช่วงการแข่งขันระดับนานาชาติ ตามปฏิทินสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่าเดย์) ในเดือน ม.ค.และ มี.ค. รวมถึงจะมีโปรแกรมสำคัญคือฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ในเดือน มิ.ย.นั้น

“เลขาโจ” นายพาทิศ​ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า ในช่วงของฟีฟ่าเดย์เดือน ม.ค.กับ มี.ค.นั้น ทางสมาคมฯ​ได้เตรียมการเอาไว้แล้วในการหาทีมอุ่นเครื่อง ทุกชุดทั้งทีมชาติไทยชุดใหญ่, ทีมชุดอายุไม่เกิน 23 ปี รวมถึงทีมฟุตบอลหญิง ครบหมดแล้ว

พ่อบ้านบอลไทย กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากว่าประเทศไทยได้ปรับมาตรการใหม่ในการเข้าประเทศเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกล่าสุด มีการยกเลิกมาตรการ Test & Go ทำให้ต้องมีการรอดูมาตรการอีกครั้งหนึ่ง ต้องรอดูวันที่ 4 ม.ค. ที่ทางรัฐบาลจะประกาศมาตรการออกมาอีกครั้งหนึ่ง ว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าหากต้องมีการกักตัว อาจจะต้องขอจัดการแข่งขันแบบบับเบิล ซึ่งต้องดูว่าทีมที่จะมานั้นยอมรับมาตรการดังกล่าวได้หรือไม่ เพราะตอนที่เจรจาเอาไว้เป็นมาตรการ Test&Go ซึ่งถ้าผลตรวจเป็นลบก็สามารถออกไปไหนมาไหนได้ บางทีมเข้ามาไม่ต้องการกักตัว ฉะนั้นถ้ามาตรการเปลี่ยนไปก็คงต้องคุยอีกครั้งหนึ่ง

“การอุ่นเครื่องเดือน ม.ค. ยังพูดได้ยากว่าจะมีหรือไม่มี เพราะเวลาค่อนข้างกระชั้นชิดในการจะเปลี่ยนแปลงต่างๆ แต่ถ้าเป็นช่วง มี.ค. ยังพอมีเวลาจะหาทีมใหม่ได้ทัน”

พ่อบ้านลูกหนังไทย กล่าวต่อว่า การอุ่นเครื่องเดือน ม.ค. และเดือน มี.ค. สามารถจัดอุ่นเครื่องปกติ ไม่มีผลจากบทลงโทษขององค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (วาดา) แต่ในส่วนของการจัดฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ นั้นยังไม่สามารถทำได้ เพราะถือว่าเป็นการขอจัดอินเตอร์เนชั่นแนล ทัวร์นาเมนต์ ต้องเคลียร์เรื่องโทษแบนของวาด้าให้เรียบร้อยจึงจะสามารถจัดการแข่งขันได้ ซึ่งช่วงเวลาการจัดคิงส์คัพนั้น นอกจากช่วงฟีฟ่าเดย์ นอกจาก ม.ค., มี.ค. รวมทั้งคัดเอเชี่ยนคัพ มิ.ย. ก็จะเหลือฟีฟ่าเดย์ช่วงเดือน ก.ย. เพียงช่วงเดียว สมาคมฯ ต้องการจัดออกมาให้สมเกียรติที่สุด มีแฟนฟุตบอลเข้าชมได้ ดังนั้นก็ต้องรอดูมาตรการของประเทศอีกครั้งหนึ่ง ให้ทุกอย่างคลี่คลายมากที่สุดก็น่าจะเป็นเดือน ก.ย.ที่จะจัดแข่งได้