นายพายัพ คชพลายุกต์ ผอ.ป.ป.ช.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ป.ป.ช.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาอยุธยา และชมรม STRONG–จิตพอเพียงต้านทุจริต จ.พระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่สังเกตการณ์ตามโครงการขับเคลื่อนและบูรณาการติดตามมาตรการป้องกันการทุจริตด้านทรัพยากรสาธารณะ เกี่ยวกับสิ่งล่วงล้ำลำน้ำบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และรอบเกาะเมือง
จากการลงพื้นที่พบว่า การก่อสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดล่วงล้ำลำน้ำ เช่น ท่าขึ้นลงเรือประเภทที่อยู่อาศัยท่าขึ้นลงเรือประเภท ร้านอาหาร แพร้านอาหาร ท่าเรือโรงงาน ส่วนใหญ่มีการขออนุญาต ขณะที่บางส่วนมีการต่อเติมหรือสร้างขึ้นใหม่โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงขอให้เจ้าท่าระมัดระวังป้องกันการล่วงล้ำลำน้ำรายใหม่ หรือกรณีรายที่ผ่านการขออนุญาตให้กวดขันการต่อเติมผิดไปจากที่ขออนุญาต พร้อมย้ำให้ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้พี่น้องประชาชน และผู้เกี่ยวข้องรับทราบอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามการลงพื้นที่แม่น้ำสายหลักของ จ.พระนครศรีอยุธยา ป.ป.ช.อยุธยา จะเก็บรวบรวมข้อมูลการก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำตามมาตรการป้องกันการทุจริต นำเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.ต่อไป หรือหากพบการทุจริตสามารถแจ้งสายด่วน ป.ป.ช. 1205 ได้ทันที
ด้านนาวาโทรัชตะ ผกาฟุ้ง ผอ.สำนักงานเจ้าเท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา กล่าวว่า กรณีการก่อสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดล่วงล้ำแม่น้ำลำคลองที่อยู่ในความดูแลของกรมเจ้าท่าขอให้ผู้ครอบครองตรวจสอบใบอนุญาตว่าเป็นไปตามที่ได้รับอนุญาตหรือไม่อย่างไร
หากพบว่าการก่อสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดล่วงล้ำไปในแม่น้ำลำคลองเกินจากแนวกรรมสิทธิ์ที่ดินของตนเองโดยไม่ได้รับอนุญาตให้เร่งรื้อถอนหรือรายที่กำลังก่อสร้างให้ดำเนินการขออนุญาตให้ถูกต้อง หากฝ่าฝืนมีโทษปรับตารางเมตรละ 1,000–20,000 บาท จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับพร้อมกับปรับรายวันไม่เกินตารางเมตรละ 20,000 บาท ตลอดระยะเวลาการฝ่าฝืน