ในช่วงตลอดปีที่ผ่านมาหลายท่านคงได้รับรู้เรื่องของกระแสปลูกไม้ด่างในยุคโควิดที่หลายคนเริ่มมีเวลาอยู่บ้านหากิจกรรมทำในยามว่างหนึ่งในกิจกรรมนั้นคือการปลูกเลี้ยงต้นไม้ในกลุ่ม ’ไม้ด่าง“ เป็นไม้ประดับสวยงามที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง หลายคนที่ได้ปลูกเลี้ยงก็จะได้ความสุขจากลวดลายและความสวยงามของใบ เมื่อต้นไม้ด่างที่ปลูกเลี้ยงสามารถขยายพันธุ์ได้ เช่นมีหน่อ ตัดมาชำ การนำมาจำหน่ายมีรายได้จากการขายต้นไม้ด่างที่ปลูกเลี้ยงเอาไว้ หลายคนปลูกเลี้ยงจนเห็นโอกาสว่าการปลูกเลี้ยงไม้ด่างเป็นอาชีพเสริมหรือเป็นอาชีพหลักสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวเป็นอย่างดี ในปี 64 นับเป็นปีทองของไม้ด่างที่ถือว่าเป็นอาชีพที่สวนกระแสเศรษฐกิจ ในปี 2564
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2021/12/014-13-1024x577.jpg)
“กล้วยด่าง” ช่วงเวลาที่เริ่มนิยมราว ๆ ต้นปี และคึกคักมากในช่วง เมษายน 2564 “กล้วยด่าง” นั้นเป็นอีกไม้ด่างที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก มีการซื้อขายกันตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักล้านบาทเลยทีเดียว อย่าง “กล้วยด่างแดงอินโด” และมีกล้วยด่างสายพันธุ์อื่น ๆ อีกจำนวนมากให้ได้เลือกสะสม ไม่ว่าจะเป็น กล้วยด่างฟลอริด้า (Florida) กล้วยหอมด่าง (เช่น คาเวนดิช, ไต้หวัน, แขนทอง เป็นต้น) กล้วยไข่ด่าง กล้วยเล็บมือนางด่าง กล้วยงาช้างด่าง กล้วยน้ำว้าด่าง (เช่น ค่อม, มะลิอ่อง, กาบขาว, ไอศกรีม) กล้วยตานีด่าง กล้วยเทพนมด่าง กล้วยป่าด่าง เป็นต้น ซึ่งทำให้หน่อกล้วยด่างเหล่านี้สามารถนำมาปลูกแล้วขายหน่อได้ตั้งแต่ราคาหลักพันจนถึงหลักหลายแสนบาทเลยทีเดียว
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2021/12/021-12-1024x577.jpg)
“ฟิโลเดนดรอนด่าง” ไม้ใบที่มีเสน่ห์ มีความหลากหลายมากที่สุดในท้องตลาดอย่างที่เป็นกระแสได้รับความนิยมมากในท้องตลาด เช่น เบอร์เบิ้ลมาร์ค, พาไรโซ่, ก้านส้มด่าง, ไวโอลินด่าง, ก้ามกุ้งด่าง, พิ้งค์ปรินเซส, หูช้างด่าง, โดเมสติคัม, สตรอเบอรี่ เชค, พิณนาคด่าง, จอร์จ บรูโน่, แบล็คคาดินัลด่าง เป็นต้น
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2021/12/020-11-1024x577.jpg)
“มอนสเตอร่าด่าง” เป็นต้นไม้อีกหนึ่งชนิดที่คนไทยเริ่มหันมาปลูกกันเยอะมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาของวิกฤติโควิด โดยต้นมอนสเตอร่านั้นมีมากกว่า 50 สายพันธุ์ แต่ที่ได้รับความนิยม หลัก ๆ ในท้องตลาด จะมีประมาณ 3 ชนิดใหญ่ ๆ คือ “มอนสเตอร่า เดลิซิโอซ่าด่าง” ก็มีหลายชนิดให้เลือกสะสม เช่น มอนฯไทยคอน, มอนฯมิ้น, มอนฯ Yellow Marilyn, มอนฯ Cremebrulee เป็นต้น “มอนสเตอร่าบอร์สิเจียน่าด่าง” อย่างที่นักสะสมเรียกง่าย ๆ ว่า มอนฯ อัลโบ้ (Albo) ที่เป็นมอนฯ เลื้อยด่างขาว ราคาใบละ 4,000-8,000 บาท และอีกตัวคือมอนฯ ออเรีย (Aurea) ที่เป็นมอนฯเลื้อยด่างเหลืองนั่นเอง ราคาใบละ 5,000-10,000 บาท “มอนสเตอร่าอะแดนโซนี่ด่าง” อย่าง พลูฉลุด่าง ที่มีทั้ง ด่างขาว และด่างเหลือง ราคาประมาณใบละ 8,000-12,000 บาท
“ซิงโกเนียม” เป็นไม้ที่เลี้ยงง่าย มีความหลากหลายให้เลือกสะสม ขยายพันธุ์ได้ง่ายชนิดหนึ่ง ราคาตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลายหมื่นบาทโดยชื่อการค้าในตลาด เช่น เงินไหลมาด่างขาว, เงินไหลมาด่างเหลือง, โมจิโต, มิ้วคอนเฟติ, เรดสปอร์ตไตรคัลเลอร์, กรีนสเปซ, พิ้งค์สเปซ, พิ้งค์สปอร์ต, พิ้งค์มาเบิ้ล, แพนด้า, สตรอเบอรี่ ไอซ์, ออมชมพูญี่ปุ่น, ทรีคิง เป็นต้น
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2021/12/017-14-1024x577.jpg)
“อโลคาเซีย” เป็นไม้ด่างที่กระแสมาแรงตั้งแต่ต้นปี โดยที่รู้จักและเรียกชื่อในการซื้อขายกันคือ “บอนกระดาดด่าง” (Alocasiamacrorrhizos (L.) G.Don) ราคาหลักร้อยถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับความสวย ขนาด และความสมบูรณ์ของต้น, “บอนหูช้างด่างขาว” (Acolocasiagageana variegated) เป็นบอนอีกชนิดที่กระแสมาแรงไม่แพ้บอนกระดาด ราคาก็แพงกว่าบอนกระดาดขึ้นไปอีก ราคาเริ่มต้นที่ซื้อขายกัน หลายพันจนถึงหลายแสนบาทเลยทีเดียว สำหรับบอนหูช้างด่างเหลืองแล้วยิ่งเป็น “บอนหูช้างด่างขาว” (Alocasiagageanaalbo variegate) ก็ยิ่งแพงกว่าหูช้างด่างเหลือง ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากมีจำนวนต้นในตลาดที่น้อยกว่านั่นเอง ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีคนขายได้ราคาหลักล้านมาแล้ว หรือนำรถหรูไปแลกดังที่เป็นข่าวดังมาก่อนหน้านี้ “บอนกระดาดดำด่าง” (Alocasia Black Stem Variegated) เป็นบอนด่างที่มีความสวยงามมากชนิดหนึ่ง นอก จากลายใบด่างที่สวยงาม ก้านมีสีดำเป็นเอกลักษณ์ทำให้ราคาเริ่มต้นซื้อขายกันที่หลักหมื่นเลยทีเดียว “โอกินาวา” (Alocasia Okinawa Silver) เป็นอโลคาเซียด่างอีกตัวหนึ่งนำเข้ามาจากญี่ปุ่น นำมาเพาะขยายจนเป็นที่ต้องการของนักเลี้ยงนักสะสมไม้ด่างในบ้านเรา
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2021/12/015-13-1024x577.jpg)
“บอนสี” (Caladium) สมญาว่า “ราชินีแห่งไม้ใบ” บอนสีถือว่าเป็นไม้ใบที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่อดีต แม้แต่ในยุคปัจจุบัน บอนสีก็ยังครองใจคนรักต้นไม้อย่างไม่เปลี่ยนแปลงด้วยความงามของใบ สีสันที่หลากหลาย เป็นไม้อีกตัวที่กระแสมาแรงมากช่วงครึ่งปีหลัง ตลาดซื้อขายคึกคักมาก ราคาเริ่มต้นหลักสิบบาทจนถึงหลายแสนบาทเลยทีเดียว
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2021/12/016-16-1024x577.jpg)
“โคโลคาเซีย” (Colocasia) หรือเรียกกันง่าย ๆ ว่า “บอนโคโลคาเซีย” ถือว่าเป็นไม้กระแสแรงมากในช่วงสิ้นปี 64 โดยราคามีให้เลือกซื้อขายกันตั้งแต่หลักร้อยขึ้นไปจนถึงหลักล้านบาท บอนโคโลคาเซียนั้นเป็นพืชที่เลี้ยงง่ายสามารถเลี้ยงแบบดินหรือเลี้ยงแช่น้ำแบบบัวก็ได้ ชอบแดด สามารถให้หน่อได้เร็วหลังปลูกเลี้ยงได้เพียง 3-4 เดือนเท่านั้น มีสายพันธุ์ให้เลือกเลี้ยงและสะสมนับร้อยชนิด นอกจากนี้ยังมีบอนลูกผสมที่ผู้เลี้ยงสามารถผสมดอกได้เองทำให้ตลาดบอนโคโลคาเซียมีการพัฒนาและคึกคักเป็นอย่างมาก
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2021/12/018-14-1024x577.jpg)
อย่างไรก็ดีการปลูก “ไม้ด่าง” นั้น เบื้องต้นคือความสุขในการที่ได้ปลูกเลี้ยงในสิ่งที่เราชื่นชอบหลงใหลในความสวยงามไม้ด่างที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมา แต่บางคนก็เห็นโอกาสช่องทางในการต่อยอดสร้างอาชีพสร้างรายได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ทั้งนี้ยังต้องจับตาดูว่าในปี 2565 ทิศทางของไม้ด่างจะเป็นเช่นไร หรือแค่กระแสเพียงชั่วข้ามคืน.
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2021/12/019-14-1024x577.jpg)