“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชนะ “ดาวทอง” เวียดนาม 2-0 ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ วันที่ 23 ธ.ค.64

นัดนี้นับเป็นชัยชนะนัดแรกของทีมไทย ที่มีต่อ เวียดนาม ยุคที่คุมโดย ปาร์ค ฮัง ซอ และเป็นชัยชนะ 5 เกมรวด ของทีมไทย ภายใต้การคุมของ มาโน โพลกิง “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยิง 2 ประตู ในครึ่งแรก แถมมีโอกาสปิดกล่องท้ายเกม แต่ยิงจุดโทษพลาด ทำให้เกมยังไม่ขาด นัดที่ 2 เตะวันที่ 26 ธ.ค.

มาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า เป็นก้าวแรกที่สำคัญสำหรับการเก็บชัยชนะ แต่งานของไทยยังไม่จบ มีจุดที่ต้องปรับปรุงและทำให้ได้ดีกว่านี้ อย่างไรก็ตามมันสำคัญมากที่ได้ผลการแข่งขันที่ดีมาก่อน ช่วงพักครึ่งหลังจากนำ 2-0 ก็พยายามปรับทีมเพื่อแพ็กเกมแล้วเน้นสวนกลับแทนจนได้จุดโทษแต่ก็พลาดไป ไม่อย่างนั้นจะสมบูรณ์แบบมากๆ

เมื่อถามถึงการหยุดสถิติไม่แพ้ใครในอาเซียนของโค้ชปาร์ค ฮัง ซอ มาโน กล่าวว่า ทุกคนรู้ว่า ปาร์ค มีสถิติที่ดีในการเจอกับทีมอาเซียนและอยากหยุดสถิตินี้ให้ได้ ทุกคนรู้ดีว่าไทยสามารถเอาชนะเวียดนามได้ แต่ก็ยังเหลืออีก 90 นาทีที่จะต้องมีสมาธิและเอาชนะให้ได้อีกหนึ่งเกม

มาโน กล่าวต่อไปว่า เกม 2 ยังเป็นแบบเดิม ไทยมีประตูนำอยู่ แต่ก็รู้ว่าสามารถทำได้ดีกว่านี้ จะวิเคราะห์เกมนี้ แล้วค่อยมาคิดถึงแผนการเล่นอีกครั้ง แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเล่นในแบบใด

กุนซือทีมชาติไทย กล่าวต่อว่า แน่นอนว่าประตูแรกมันคือความโชคดีเล็กน้อย แต่ที่สำคัญคือสามารถลงโทษเวียดนามจากจุดที่ผิดพลาดและทำให้ทีมออกนำก่อนได้ แต่ประตูที่ 2 ต้องยกว่าเป็นการเข้าทำที่สวยงามของทีมชาติไทย

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเล่นหนักของเวียดนามกับทีมไทย มาโน กล่าวว่า รู้ว่าเวียดนามเป็นทีมเล่นหนักอยู่แล้ว และทำได้ดีในแบบนี้มาตลอด แต่ทุกอย่างโอเคและไม่ได้หนักเกินไป มันคือฟุตบอลและไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้