น.ส.ปิยธิดา ตันตระกูล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 64 ภัยคุกคามด้านไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ ในไทย ยังคงเป็นเรื่องของแรนซัมแวร์ โดยกลุ่มธุรกิจที่เป็นเป้าหมายโจมตี ท็อป 3 คือ 1.ภาคธนาคาร 2.องค์กรขนาดใหญ่ และ 3.ธุรกิจคอมเมอร์เชียล ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ล่วงหน้า ที่เทรนด์ไมโคร ทำนายไว้ ซึ่งทางภาคธุรกิจของไทยมีความสามารถในการรับมือภัยคุกคามได้ดีขึ้น ทำให้มีความเสียหายน้อยลง เนื่องจากตรวจพบและการตอบสนองต่อการโจมตี ทำได้ไวขึ้น

“ทิศทางของตลาดไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ มีการเติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของคลาวด์ ซีเคียวริตี้ ที่เติบโตประมาณ 7% เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้มีการทำงานจากบ้าน หรือ เวิร์ก ฟรอม โฮม เพิ่มสูงขึ้น ทำให้องค์กรมีการปรับไปสู่การใช้งานคลาวด์มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ตลาดไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ ของไทย โดยเฉพาะคลาวด์ ซีเคียวริตี้ มีการเติบโตขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งในส่วนของ เทรนด์ไมโคร ประเทศไทย ก็มีอัตราการเติบโตเป็นเลข 2 หลัก ซึ่งความสำเร็จมาจากการที่เปลี่ยนรูปแบบไปสู่การเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น สร้างความตระหนักรู้กับองค์กร และหน่วยงานสำคัญด้านการรักษาความปลอดภัยบนไซเบอร์เพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดมีความต้องการทางด้านซีเคียวริตี้เพิ่มขึ้นในปีนี้”

น.ส.ปิยธิดา กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมด้านการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดของลูกค้า ในปี 65 จะไม่เหมือนเดิม ทั้งในมุมของการป้องกัน ซึ่งในส่วนภัยคุกคามอย่างแรนซัมแวร์จะมีเรื่องของการปกป้องแบบหลายระดับเพิ่มมากขึ้น รวมถึงต้องมีระบบสำรองข้อมูลที่ดีและทันสมัยอยู่เสมอทั้งในแง่ของเครื่องมือและการอัพเดทให้พร้อมรับมือภัยคุกคาม โดยแนวการดำเนินงานในช่วงปี 65-66 การดิจิทัล ทรานฟอร์เมชั่น ยังคงเป็นเรื่องสำคัญที่องค์กรต่างๆ ต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้สามารถทำงานได้ทั้งในรูปแบบของเวิร์ก ฟรอม โฮม ตลอดจนการทำงานในรูปแบบไฮบริดได้อย่างปลอดภัย และเทรนด์ไมโคร ได้ตั้งเป้าหมายเป็นแพลตฟอร์ม ไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ ช่วยลูกค้าในแง่ของการตอบสนองต่อสถานการณ์ภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ