นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานเทคนิค สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ “เจ้าเหลิม” ฐิติสรรณ์ ปั้นโหมด นักชกดาวรุ่งรุ่นฟลายเวตชาย (52 กก.) วัย 19 ปี ดีกรีแชมป์เยาวชนโลก โชคร้ายได้รับบาดเจ็บในช่วงฝึกซ้อม จนเอ็นหัวเข่าซ้ายฉีก และต้องจำใจถอนตัวจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น อย่างน่าเสียดายนั้น ส่งผลให้ใน “ศึกโตเกียวเกมส์” ครั้งนี้ ทีมเสื้อกล้ามไทย จะเหลือขุนพลนักชกไปลุ้นเหรียญ 4 รุ่น คือ รุ่นเฟเธอร์เวตชาย (57 กก.) “สด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี, รุ่นฟลายเวตหญิง (51 กก.) “เฟี้ยว” จุฑามาศ จิตรพงศ์, รุ่นไลต์เวตหญิง (60 กก.) “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี และรุ่นเวลเตอร์เวตหญิง (69 กก.) “ครีม” ใบสน มณีก้อน ซึ่งทั้งหมดจะเดินทางไปญี่ปุ่น พร้อมคณะนักกีฬาชุดใหญ่ วันที่ 16 ก.ค.นี้
ประธานเทคนิคมวย กล่าวต่อว่า จากเหตุดังกล่าวก็ถือว่าเราหมดความหวังลุ้นเหรียญไปอีกคน แต่ตนยังยืนยันว่านักชกไทยทุกคนที่คว้าตั๋วไปลุยศึกโอลิมปิกเกมส์ได้ ถือว่าทุกคนมีความหวัง มีลุ้นเหรียญทุกคน ส่วนจะเป็นเหรียญสีอะไรนั้นก็อยู่ที่ฝีมือเป็นหลัก รวมทั้งมีโชคมีดวงในการจับสลากและมีวาสนาด้วย อย่างไรก็ตาม ในมุมของส่วนตัวแล้วด้วยประสบการณ์ที่ทั้ง 4 คน ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก การเป็นนักมวยไทยมาก่อน เมื่อขึ้นสังเวียนระดับนี้อาจจะมีตื่นเต้นบ้างแต่ก็คงไม่มาก ยิ่งเรื่องของการเจอกับความเจ็บปวดด้วยแล้ว หายห่วงได้เลยเพราะทุกคนผ่านมาหมดแล้ว เราเป็นกีฬาคนจน เป็นลูกชาวบ้าน ย่อมจะมีน้ำอดน้ำทนเป็นพิเศษ และตนยังยืนยันได้ว่าทั้ง 4 คนที่เหลือ ยังมีกำลังใจดีเยี่ยมและมีความมุ่งมั่นที่จะก้าวไปคว้าเหรียญกลับมาอย่างแน่นอน
“บิ๊กสมชาย” กล่าวอีกว่า ก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น ทางคณะกรรมกาบริหารสมาคมฯ นำโดย นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมฯ ได้มอบเงินโบนัสให้คนละ 500,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจกับทุกคนที่ไปสู้ศึกใหญ่ครั้งนี้ และหากได้เหรียญกลับมาก็จะมีเงินอัดฉีดจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมาอีกด้วย ขณะเดียวกัน เพื่อนๆ ที่เห็นกับตนหลายคนก็แสดงความจำนงที่จะร่วมกันสนับสนุนเงินอัดฉีดอย่างเต็มที่หากน้องๆ ได้เหรียญกลับมา ซึ่งอาจจะเป็นเงินจำนวนไม่เยอะ ไม่ใช่เงินก้อนโต แต่เมื่อรวมๆ กันแล้วก็คาดว่าเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเช่นกัน ก็ถือว่าเป็นข่าวดีที่เมื่อนักชกไทยได้ฟังก็จะได้มีพลังและแรงใจที่จะก้าวไปสู่เป้าหมายในการคว้าเหรียญใดเหรียญหนึ่งหลับมาให้ได้นั่นเอง.