“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย จะพบ “อัซกัลส์” ฟิลิปปินส์ ในฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” รอบแรก กลุ่ม A ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ วันที่ 14 ธ.ค. เวลาไทย 16.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 HD
ทีมชาติไทย เตะ 2 นัด มี 6 แต้ม นำจ่าฝูง จากการชนะ ติมอร์เลสเต 2-0 และ ถล่ม เมียนมา 4-0 ส่วน ฟิลิปปินส์ มี 3 แต้ม จาก 2 นัด ที่แพ้ สิงคโปร์ 1-2 และถล่ม ติมอร์ 7-0 นัดนี้หากไทยชนะ จะเข้ารอบทันที
มาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า เป็นเกมที่สำคัญที่สามารถตัดสินการเข้ารอบรองชนะเลิศได้ ไทยไม่มีนักเตะคนใดบาดเจ็บ แต่ยอมรับว่ามีเวลาซ้อมน้อย หลังเกมกับ เมียนมา ได้แค่ฟื้นฟูสภาพร่างกาย รวมถึงวิเคราะห์เกมกับเมียนมา นำจุดผิดพลาดมาแก้ไข รักษาสิ่งที่ดีในเกมก่อน เพื่อทำให้ดีขึ้น มีสมาธิกับเกมของตัวเอง
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2021/12/266432587_2766251140351100_6432678243309359032_n-1024x682.jpg)
เฮดโค้ชช้างศึก กล่าวต่อว่าส่วนตัวก็รู้จักกับ สกอตต์ คูเปอร์ เฮดโค้ชฟิลิปปินส์ดี เป็นโค้ชที่เคยทำงานในไทย รู้จักไทยลีกและผู้เล่นไทย ตนได้ดูฟิลิปปินส์ในสนาม ขณะที่นักเตะในทีมก็มีประสบการณ์ เคยเล่นในไทยลีกมาหลายคน ถึงแม้ว่าชุดนี้จะไม่หนุ่มแน่นเหมือนทีมอื่นๆ แต่ก็เป็นทีมที่แข็งแกร่งและอันตรายแน่นอน แต่การที่ชนะ ติมอร์ฯ 7-0 นัดนั้น ติมอร์ฯ ส่งสำรองลงเยอะ จึงไม่ได้สนใจผลนัก จะเน้นไปวิเคราะห์เกมกับสิงคโปร์มากกว่า
ด้าน สจวต ฮอลล์ ผู้ช่วยโค้ชของฟิลิปปินส์ กล่าวว่า หวังว่าลูกทีมทุกคนจะพร้อมสำหรับเกมนี้เพื่อที่จะได้เลือกผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนาม การเอาชนะ ติมอร์ฯ ทำให้ทุกคนมั่นใจ เกมนั้นต้องให้เครดิตลูกทีมด้วยที่เริ่มต้นเกมได้ดี ทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผน แต่การเจอกับทีมชาติไทยจะแตกต่างออกไปแน่นอน ทีมไทยได้ผู้เล่นที่ดีที่สุดมาในการแข่งขันครั้งนี้ จะเป็นการเล่นระดับสูงและยากสำหรับฟิลิปปินส์ แต่พร้อมจะสู้
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2021/12/266347604_2766251197017761_3928662241237633272_n-1024x682.jpg)
สำหรับ 11 ตัวจริงของไทย ที่คาดว่าจะลงสนาม น่าจะยึดชุดเดิมเพื่อเก็บชัยชนะและการันตีเข้ารอบตัดเชือก ในระบบ 4-2-2-2 ผู้รักษาประตู ฉัตรชัย บุตรพรม, แนวรับจากขวาไปซ้าย นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, มานูเอล ทอม เบียรห์, กฤษดา กาแมน, ธีราทร บุญมาทัน, กองกลางตัวรับ 2 คน พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล กับ สารัช อยู่เย็น, กองกลางรุก 2 คน “กัน” ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร กับ “กัปตันเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ คู่ศูนย์หน้า ศุภชัย ใจเด็ด และ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ที่ขอยิงอีกลูกเดียว จะผงาดนำดาวยิงตลอดกาล ศึกชิงแชมป์อาเซียน หลังสอยไปแล้ว 17 ประตู เท่า นอห์อลัมชาห์ ของสิงคโปร์
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2021/12/266698162_2766250593684488_3218273095190887813_n-1024x682.jpg)
ด้านฟิลิปปินส์ของ สกอตต์ คูเปอร์ ที่เคยทำงานในไทยลีก มีนักเตะที่คุ้นเคยบอลไทยหลายรายไม่ว่าจะ ไดสุเกะ ซาโตะ กับ แพทริก ไรเชลท์ (สุพรรณบุรี เอฟซี), อมานี อกินัลโด้ (หนองบัว พิชญ), เควิน อินเกรโซ (สมุทรปราการ ซิตี้) รวมถึง มาร์ติน สตูเบิล
สถิติที่ผ่านมาเจอกันมา 20 ครั้ง ไทยชนะ 15 ครั้ง เสมอ 2 ครั้ง และแพ้ 3 ครั้ง แต่ครั้งสุดท้ายที่ไทยแพ้ต้องย้อนไปปี 1927 ในศึกจาการ์ต้า โทรฟี่ ที่อินโดนีเซีย ส่วนครั้งล่าสุดที่เจอกันในเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 รอบแบ่งกลุ่ม เสมอ 1-1