สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ว่า จากกรณีสหรัฐบังคับใช้มาตรการฝ่ายเดียว ปิดล้อมด้านอาวุธต่อกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลหลายประการ รวมถึงว่า รัฐบาลพนมเปญไม่สามารถตอบสนองต่อ “ความวิตกกังวล” ของรัฐบาลวอชิงตัน กรณีให้จีนเข้ามาในฐานทัพเรือเรียม ฐานทัพขนาดใหญ่ที่สุดของกัมพูชา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับอ่าวไทย สหรัฐจึงมองว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น “ไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ด้านความมั่นคง และการดำเนินนโยบายต่างประเทศ” นั้น
The US has tried to tarnish Cambodia and China’s relations amid its imposition of the arms embargo against the Cambodian government, said a Chinese official. https://t.co/qOD1ZtMrYd
— Khmer Times (@KhmerTimes) December 10, 2021
นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “เป็นเรื่องปกติที่สหรัฐต้องการแสดงอำนาจเหนือกว่า” ในกรณีนี้คือการพยายามสร้างความเสื่อมเสีย และทำลายความร่วมมือระหว่างจีนกับกัมพูชา ซึ่งดำเนินอย่างปกติมาโดยตลอด ขณะเดียวกัน การดำเนินการของรัฐบาลวอชิงตันยังไม่สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติ ของการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย
#NEWS: Commerce Adds Export Controls on Cambodia to Address Corruption, Human Rights Abuses, and Regional Security Concerns https://t.co/6EfRJ5AbiO
— U.S. Commerce Dept. (@CommerceGov) December 8, 2021
ทั้งนี้ นายหวังทิ้งท้ายว่า ความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชากับจีน เป็นเรื่องที่สหรัฐ “ประเมินค่าต่ำเกินไป” และขอเตือนว่า ความพยายามของรัฐบาลวอชิงตันจะไม่มีทางประสบความสำเร็จ
ขณะที่ สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แสดงท่าทีเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า รัฐบาลพนมเปญเตรียมทำหน้าที่ประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน ) อย่างเป็นทางการ ในปี 2565 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่มีรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต้องการจัดประชุมสุดยอดสหรัฐ-อาเซียน ที่กรุงวอชิงตัน
อย่างไรก็ตาม ผู้นำกัมพูชากล่าวว่า หากรัฐบาลวอชิงตันยังคงใช้มาตรการ “ที่ไม่มีเหตุผล” ต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับกัมพูชา เขาจะไม่เดินทางไปร่วมการประชุมนี้ ซึ่งโดยธรรมเนียมทางการทูตแล้ว เมื่อไม่มีประเทศซึ่งทำหน้าที่ประธานหมุนเวียนของอาเซียนเข้าร่วม การประชุม “เป็นอันล่มโดยปริยาย”.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES