เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีตำรวจสลายการชุมนุมประชาชนเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ที่ปักหลักอยู่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล คัดค้านโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 6 ธ.ค.ว่า เป็นการควบคุม ไปเพื่อชี้แจงต่างๆ ซึ่งจำเป็นต้องทำ เพราะมีข่าวว่าจะมีคนมามั่วสุมเพิ่มเติมซึ่งต้องช่วยรัฐบาล เพราะตามกฎหมายสถานที่ราชการมีระยะห่าง 150 เมตร ฉะนั้นมาทุกทีมาแล้วก็ไม่ไปก็ต้องไปฟังเขา ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอน
การทําประชาพิจารณ์และให้หน่วยงานเข้าไปฟัง
เมื่อถามถึงประเด็นการทำ MOU ชะลอโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะเมื่อปลายปี 2563 ในช่วง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ดูแล มีความเป็นไปได้ตามที่เคยตกลงไว้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ใครตกลง แล้วตนเคยตกลงหรือยังและ ครม. ยังไม่เคยตกลง ในส่วนนี้ตนจะให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ ศอ.บต.ไปดูแลว่าเกิดอะไรขึ้นควรแก้ไขอย่างไร ต้องมองสิ่งที่เป็นประโยชน์ สิ่งไหนที่ไม่เป็นประโยชน์หรือมีปัญหาก็ไม่ควรทำ ขอให้ทำตามกติกา ถูกต้องตามกฎหมาย การไปพบปะไปเจรจาของใครก็แล้วแต่ การไปตกลงอย่าลืมว่าไม่ได้ผ่าน ครม. ตนได้มีการเตือนหลายครั้งเมื่อไปรับข้อสังเกตมาและดูวิธีการแก้ปัญหา คือการทำงานของรัฐบาลต้องรอบคอบ
เมื่อถามถึงกรณีกลุ่มคนภาคใต้ เตรียมเดินทางเข้าสมทบที่กรุงเทพมหานคร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่ามาเลย ให้ทำกันที่นู้นแล้วจะส่งคนไปดูแล และจะรับว่ามาอะไรเป็นข้อเท็จจริง อะไรถูกบิดเบือน อะไรคือสิ่งที่ไม่ควรทำ ทั้งนี้มุ่งหวังให้ภาคใต้มีเศรษฐกิจที่เจริญเติบโตมากขึ้นต้องมองในแง่นี้ คนทำก็ต้องทำด้วยความรอบคอบ ยืนยันว่าตนฟังความคิดเห็นประชาชน ถ้าไม่ฟังก็ไม่ใช่กระบวนการทางประชาธิปไตยประชาชน ที่ตนได้สั่งการว่าอย่าไปดำเนินการอะไรมากมายให้ตักเตือน ซึ่ง 36 คนที่ถูกควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ปล่อยตัว หากมีการประกันตัวอะไรต่างๆ ไม่มีอะไรหนักหนา ขออย่าทำผิดกฎหมาย และตนรับฟังอยู่แล้ว หากปล่อยปละละเลยเล็กๆ น้อยๆ เรื่องก็จะบานปลายไปทุกที.