เมื่อวันที่ นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานอำนวยการบริหารจัดการแก้ไขสถานการณ์โควิดในระบบขนส่งมวลชน เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข สถาบันโรคผิวหนัง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ ผู้แทนฝ่ายทหาร ตำรวจ และการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการจราจร และการรอคิวบริการฉีดวัคซีน ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อว่า ปัจจุบันศูนย์ฯ ให้บริการฉีดวัคซีน แบบลงทะเบียนผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ และแบบองค์กรที่บริการประชาชน ณ โถงประตู 2-4 รวมถึงการให้บริการ on-site แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุเกินกว่า 75 ปี ณ โถงประตู 1 โดยแต่ละวันมีผู้ใช้บริการเฉลี่ย 2 หมื่นคนในช่วงวันสุดสัปดาห์ และมีผลดำเนินการตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.จนถึงปัจจุบันประมาณ 7.2 แสนราย โดยที่ผ่านมาการดำเนินการเป็นไปด้วยดี แต่ปัจจุบันมีผู้ขอรับการบริการเพิ่มสูงขึ้น และมีวินมอเตอร์ไซด์ แท็กซี่ จำนวนมาก มาวนรอให้บริการ ทำให้เกิดการจราจรติดขัด
นายสรพงศ์ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อห่วงใยในปัญหาการจราจร และการรอรับบริการที่มีเป็นจำนวนมาก นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม จึงมอบหมายให้ศูนย์ฯ บริหารจัดการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เน้นการให้บริการเชิงคุณภาพ ให้ประชาชนได้รับความพึงพอใจสูงสุด อย่างไรก็ตามสำหรับแก้ไขปัญหาในด้านต่างๆ นั้น ที่ประชุมมีมติให้ตำรวจนครบาล มาช่วยจัดระบบจราจร การเข้า-ออก และภายในบริเวณศูนย์ฯ โดยจะแก้ ปัญหาการจัดกรอบการเดินรถยนต์ในสถานี ให้ผู้ที่เข้าสถานีจุดจอดที่ 1 ใช้ถนนรอบใน จุดจอดที่ 2 3 และ 4 ใช้ถนนวงรอบนอก เพื่อไม่ให้รถที่มาส่งผู้สูงอายุกีดขวางจราจรด้านหลัง และแก้ไขปัญหามาเฟียวินมอเตอร์ไซด์ แท็กซี่ ที่จอดรถ ที่มาจัดคิวจอดรถบริเวณรอบนอก พร้อมกันนี้จะให้ทหารมาช่วยจัดคิวผู้มาฉีดวัคซีนที่มาก่อนเวลา และสนับสนุนรถสุขาเคลื่อนที่ ประมาณ 40 นายด้วย
นายสรพงศ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของกระทรวงคมนาคมจะติดตั้งป้ายจราจรเพื่อบอกทิศทาง รวมทั้งจัดเก้าอี้ 500 – 1,000 ตัว เพื่อใช้รอคิว พร้อมทั้งจัดอุปกรณ์จราจร อุปกรณ์ขยายเสียง 4-8 ชุด และเต้นท์ กันแดดฝน หน้า ทางเข้าออก สำหรับบริการผู้ติดตามที่ต้องรอด้านนอก นอกจากนี้จะเพิ่มผู้มาช่วยสนับสนุนงานอีก 50 คนต่อวัน จากเดิมวันละ 350 คนเป็น 400 คน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะยกเลิกการตั้งโต๊ะหมอพร้อม เพื่อจองฉีดวัคซีนที่บริเวณสถานี เพื่อลดการเดินทางเข้าสถานีบางซื่อ 3,000 คนต่อวัน รวมทั้งจะกำหนดให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 40 ปี ไม่ต้องวัดความดัน เพื่อสามารถระบายคิวการรับการฉีดวัคซีนไม่ให้หนาแน่น.
