สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 29 ต.ค.ว่าสืบเนื่องจากกรณีหน่วยยามฝั่งของฝรั่งเศสยึดเรือประมง “คอร์เนลิส เกิร์ต แจน” ติดธงสหราชอาณาจักร แล้วลากเข้าสู่ฝั่งที่เมืองเลอ อาฟวร์ ที่อยู่ทางเหนือของประเทศ บริเวณช่องแคบอังกฤษ เมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องจากลูกเรือไม่สามารถแสดงหลักฐาน ยืนยันการเข้ามาจับสัตว์ทะเลในบริเวณนี้ “อย่างถูกต้องตามกฎหมาย” และในเวลาไล่เลี่ยกัน ยังมีการสั่งปรับเรือประมงของสหราชอาณาจักรอีกลำหนึ่งด้วยนั้น

Reuters


นางลิซ ทรัสส์ รมว.การต่างประเทศของสหราชอาณาจักร เชิญเอกอัครราชทูตของฝรั่งเศสเข้าพบ “เพื่อขอคำชี้แจงอย่างเป็นทางการ” ต่อการดำเนินการ “ที่ไม่ชอบธรรม” ของรัฐบาลปารีส ขณะที่นายจอร์จ ยุสทิส รมว.สิ่งแวดล้อมของสหราชอาณาจักร ยืนยันว่า เรือคอร์เนลิส เกิร์ต แจน ได้รับใบอนุญาตถูกต้องจากสหภาพยุโรป (อียู) อย่างไรก็ตาม “ยังไม่มีความชัดเจน” ว่าเพราะเหตุใดชื่อของเรือลำนี้หายไปจากบัญชีของอียูในเวลาต่อมา

แผ่นป้ายเตือน “พื้นที่ความมั่นคง” ติดไว้บนประตูทางเข้าท่าเรือในเมืองเลอ อาฟวร์ ของฝรั่งเศส


ด้านนายกรัฐมนตรีฌ็อง กัสเต็กซ์ ยืนยันว่า ฝรั่งเศสพร้อมหารือกับสหราชอาณาจักร ส่วนนางอันนิก ฌีราแด็ง รมว.สิ่งแวดล้อมของฝรั่งเศส กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น “ไม่ใช่สงคราม” แต่กล่าวว่า ชาวประมงของฝรั่งเศสมีสิทธิของตัวเองเช่นกัน และรัฐบาลสหราชอาณาจักรต้องปฏิบัติตามข้อตกลงที่ลงนามร่วมกันหลังเบร็กซิต


ทั้งนี้ ฝรั่งเศสยังคงไม่พอใจอย่างหนัก ต่อการที่สหราชอาณาจักรยังคงชะลอการออกใบอนุญาต ให้กับชาวประมงของฝรั่งเศสมากกว่า 200 คน ในการเข้าไปจับสัตว์ทะเลในรัศมี 6-12 ไมล์ทะเลจากชายฝั่งของสหราชอาณาจักร ในขณะที่อียูออกใบอนุญาตแบบเดียวกันให้กับมากกว่า 90% ของชาวประมงสหราชอาณาจักรที่ยื่นเรื่องเข้ามา


ในอีกด้านหนึ่ง มีรายงานว่า พนักงานสอบสวนในเมืองเลอ อาฟวร์ อาจปรับเรือคอร์เนลิส เกิร์ต แจน มากถึง 75,000 ยูโร (ราว 2.89 ล้านบาท) นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมอื่นอีก เนื่องจากบนเรือมีหอยเชลล์มากถึง 2,160 กิโลกรัม “ที่ถือเป็นการลักลอบจับ”.

เครดิตภาพ : REUTERS