จากกรณี คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เรื่อง พื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัวในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว

โดยเขตพื้นที่ที่กำหนดเป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น โดย พื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งสิ้น 17 จังหวัด ที่ถูกกำหนดให้เป็น “พื้นที่สีฟ้า” เริ่มนำร่องให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไปเที่ยวได้ ระหว่าง 1-30 พ.ย. มีดังนี้

1. กรุงเทพมหานคร
2. จังหวัดกระบี่
3. จังหวัดชลบุรี (เฉพาะอำเภอบางละมุง เมืองพัทยา อำเภอศรีราชา อำเภอเกาะสีชัง และ อำเภอสัตหีบ เฉพาะตำบลนาจอมเทียนและตำบลบางเสร่)
4. จังหวัดเชียงใหม่ (เฉพาะอำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอดอยเต่า อำเภอแม่ริม และอำเภอแม่แตง)
5. จังหวัดตราด (เฉพาะอำเภอเกาะช้าง)
6. จังหวัดบุรีรัมย์ (เฉพาะอำเภอเมืองบุรีรัมย์)
7. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (เฉพาะตำบลหัวหินและตำบลหนองแก)
8. จังหวัดพังงา
9. จังหวัดเพชรบุรี (เฉพาะเทศบาลเมืองชะอำ)
10. จังหวัดภูเก็ต
11. จังหวัดระนอง (เฉพาะเกาะพยาม)
12. จังหวัดระยอง (เฉพาะเกาะเสม็ด)
13. จังหวัดเลย (เฉพาะอำเภอเชียงคาน)
14. จังหวัดสมุทรปราการ (เฉพาะบริเวณพื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ)
15. จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เฉพาะเกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า)
16. จังหวัดหนองคาย (เฉพาะอำเภอเมืองหนองคาย อำเภอสังคม อำเภอศรีเชียงใหม่ และ อำเภอท่าบ่อ)
17. จังหวัดอุดรธานี (เฉพาะอำเภอเมืองอุดรธานี อำเภอบ้านดุง อำเภอกุมภวาปี อำเภอนายูง อำเภอหนองหาน และ อำเภอประจักษ์ศิลปาคม)

สำหรับมาตรการรองรับการเปิดประเทศ 1 พ.ย. มีใจความสำคัญในการจำกัดเงื่อนไขการเข้าราชอาณาจักรไทยของทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ควบคู่กับมาตรการด้านสาสาธารณสุขอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้

1.เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป

2.พื้นที่ที่ได้รับการผ่อนคลายคือ กรุงเทพฯ และ 16 จังหวัด โดยบางจังหวัดจะเป็นเพียงบางพื้นที่หรือบางอำเภอ

3.ยกเลิกมาตรการเคอร์ฟิว สามารถออกนอกเคหสถานได้ตลอด 24 ชั่วโมง

4.สามารถจัดกิจกรรมต่างๆ ที่รวมกลุ่มคนได้ แต่ต้องไม่เกิน 500 คน

5.มีการกระจายอำนาจ มอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อประจำจังหวัด สามารถพิจารณาเบื้องต้น ในการออกมาตรการผ่อนคลายหรือเข้มข้นขึ้นเป็นบางเขตบางพื้นที่ (โดยต้องนำเสนอต่อส่วนกลาง)

6.การเตรียมความพร้อมของสถานบริการ หรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ในระยะเริ่มแรกของพื้นที่สีฟ้า สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ แม้จะอยู่ในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวแต่ยังคงให้ปิดบริการ อย่างไรก็ตาม ขอให้เตรียมความพร้อมเพื่อการผ่อนคลายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

7.การปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ยังมีการกำหนดมาตรการเพิ่มในแต่ละจังหวัด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สามารถพิจารณาเพิ่มเติม และสามารถสั่งปิด หรือดำเนินกิจการ กิจกรรมได้ กรณีที่มีการแพร่ระบาดในพื้นที่นั้นๆ เพิ่มขึ้น

8.มาตรการที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามานั้น กำหนดเฉพาะกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำจำนวน 46 ประเทศ โดยจะต้องมีมาตรการที่มีมาตรฐาน ประกอบด้วย

8.1 ต้องฉีดวัคซีนครบสองเข็ม มีเอกสารรับรองการรับวัคซีนครบ 2 เข็ม
8.2 มีผลการตรวจเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ก่อนเดินทางไม่เกิน 72 ชม. เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย จะต้องตรวจ PCR หาเชื้อซ้ำโดยทันที เมื่อผลเป็นลบถึงจะเดินทางต่อไปยังพื้นที่อื่นได้
8.3 ต้องทำประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการรักษาพยาบาลที่เพียงพอ อย่างน้อย 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ
8.4 ต้องแสดงหลักฐานว่ามีการชำระค่าที่พักในประเทศไทย
8.5 ผู้เดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว: ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของ สธ. ซึ่งจะมีการแถลงรายละเอียดต่อไป.