นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นางภรณี กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบให้คนไร้บ้านเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 30 จากเดิมที่พบคนไร้บ้านในกรุงเทพฯ กว่า 1,027 คนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 1,300-1,400 คน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา จนทำให้คนกลุ่มนี้มีสถานะตกงาน ขาดรายได้ และเข้าไม่ถึงสิทธิสวัสดิการต่างๆ ส่งผลให้คนไร้บ้านมีปัญหาทางสุขภาพมากกว่าคนทั่วไป เช่น โรคทางเดินหายใจ โรคติดต่อ เป็นต้น ทำให้ต้องได้รับการดูแลและติดตามชีวิตความเป็นอยู่เป็นระยะ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพ สร้างสุขภาวะที่ดีเทียบเท่าคนทุกกลุ่ม
“สสส. ร่วมกับมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย และภาคีเครือข่าย จัดทำครัวกลาง – อาหารราคาถูก ช่วยประสานงานให้คนไร้บ้านได้เข้าถึงวัคซีน สร้างอาชีพเสริมรายได้ พัฒนาศักยภาพและเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆให้คนไร้บ้านสามารถตั้งหลักชีวิตและกลับคืนสู่ชุมชน โดยถุงยังชีพ “มิตรปันสุข” 7,300 ชุด จะถูกส่งไปที่ศูนย์พักคนไร้บ้านใน 6 จังหวัด เครือข่ายแรงงานนอกระบบ กลุ่มแรงงานข้ามชาติ กลุ่มเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ชุมชนแออัดในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดอีก 17 จังหวัด
นางสาวกรรณิกา ว่องกุศลกิจ ผู้อำนวยการด้านพัฒนาชุมชนเพื่อความยั่งยืน กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า แม้สถานการณ์โควิด-19 จะเริ่มคลี่คลายและเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ปัญหาด้านเศรษฐกิจอาจจะยังไม่สามารถกลับมาฟื้นตัวได้ทันที การที่เราได้ทำงานร่วมกับ สสส. และภาคีเครือข่าย ทำให้พบว่าคนไร้บ้านมีปัญหาจากการใช้ชีวิตในหลายพื้นที่ โครงการมิตรปันสุข โดยกลุ่มมิตรผล และกองทุนมิตรผล-บ้านปู รวมใจช่วยไทย สู้ภัย COVID-19 จึงจัดตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจ มีเป้าหมายช่วยให้คนไทยได้ท้องอิ่ม ยิ้มได้ ใจสู้ต่อในยามนี้
โดยเครื่องอุปโภค บริโภคในถุงยังชีพมิตรปันสุข ส่วนหนึ่งเป็นสินค้าที่ผลิตในชุมชน เช่น ข้าวหอมมะลิ กล้วยฉาบ น้ำพริกต่างๆ รวมถึงจ้างชุมชนตัดเย็บถุงที่ทำจากกระสอบน้ำตาลมิตรผลรีไซเคิล เพื่อให้ชุมชนมีรายได้ เกิดเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียนในท้องถิ่นต่อไป และเราขอเป็นอีกกำลังใจให้คนไทยก้าวผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน
นายสมพร หารพรม เจ้าหน้าที่มูลนิธิเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัย กล่าวว่า ศูนย์คนไร้บ้าน บ้านพูนสุข ดูแลคนไร้บ้านทั้งในสถานการณ์ปกติและโควิด-19 ที่นี่ถูกออกแบบและวางระบบให้คนไร้บ้านมาพักได้ ตั้งอยู่ในชุมชนบนเนื้อที่ 2 ไร่ รองรับสมาชิกคนไร้บ้านอาศัยได้เกือบ 100 คน รวมทั้งชายและหญิง แบ่งเกณฑ์การเข้าพัก 3 ระดับ คือ ชั่วคราว ประจำ และมั่นคง โดยทุกคนที่มาอยู่ที่นี่จะได้รับประโยชน์อย่างคุ้มค่าและสอดคล้องกับวิถีชีวิต เพราะในที่พักจะแบ่งโซนให้เรียนรู้วิธีปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ สร้างความมั่นคงทางอาหาร รวมถึงสร้างอาชีพให้คนไร้บ้านหารายได้เลี้ยงปากท้องของตัวเองได้
‘’เมื่อคนไร้บ้านมีรายได้ทางศูนย์ได้ฝึกให้เขารู้จักวิธีใช้เงินด้วยการนำมาซื้ออาหารราคาถูกในศูนย์แทนการรับอาหารฟรี เพื่อฝึกความรับผิดชอบและต่อยอดให้มีอาชีพทำเพื่อตั้งหลักชีวิตให้สามารถดูแลตัวเองในระยะยาว ส่วนคนไร้บ้านที่อยู่แบบมั่นคงจะได้ฝึกเป็นอาสาสมัคร ดูแลที่พัก และเป็นหนึ่งในทีมงานสำรวจประชากรคนไร้บ้านในพื้นที่’’