เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงเหตุการณ์แม่ใน จ.บุรีรัมย์ สร้างห้องสำหรับขังลูกชายที่ติดยาเสพติด หลังเข้ารับการบำบัดหลายครั้ง แต่ไม่เป็นผล เพราะกลับมาบ้านยังมีพฤติกรรมเช่นเดิม คลุ้มคลั่งอาละวาด ว่า ตนจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ร่วมกันเข้าไปติดตามเรื่องดังกล่าว อีกทั้งเตรียมจะยกกรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่างเทียบเคียง เพื่อประกอบการพิจารณาออกมาตรการบำบัดซ้ำโดยคำสั่งศาล อย่างไรก็ตาม แม้กรณีของพ่อแม่ที่ขังลูก จะไม่มีความผิดอะไร แต่ลูกสามารถแจ้งความข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวได้
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ผู้ที่เข้ารับการบำบัดยาเสพติดแล้ว มีหลายคนที่กลับมาใช้ยาเสพติดซ้ำ เนื่องจากไม่มีอาชีพ และสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย ดังนั้นนโยบายของรัฐบาล จะต้องยกระดับให้ความสำคัญกับชุมชนที่ผู้เข้ารับการบำบัดจะต้องกลับไปอยู่อาศัย โดยจะเชิญตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สันนิบาต และเทศบาลจากทั่วประเทศ มาร่วมประชุมในวันที่ 7 พ.ย. นี้ เพื่อให้มาสะท้อนข้อเท็จจริงสำหรับการปรับการทำงาน ให้สังคมมีสันติสุข และมีสภาพแวดล้อมที่ป้องกันไม่ให้ผู้เสพกลับไปใช้ยาเสพติดอีก
เมื่อถามว่าขณะนี้จำนวนผู้ติดยาเสพติดเพิ่มขึ้นหรือลดลง เมื่อเทียบจากอดีต พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า จากการสำรวจของผู้เข้ารับการบําบัดซึ่งอยู่ในการดูแลของกรมคุมประพฤติและกรมราชทัณฑ์ รวมถึงผู้ที่อยู่ในการดูแลของแพทย์เพื่อบำบัดฟื้นฟู จะมีอยู่ประมาณ 300,000 คน และยังมีผู้ที่ไม่อยู่รวมในนี้อีก 200,000 คน