หลังจากที่มีผู้นำกรณีศึกษาทางการแพทย์จากเหตุการณ์ครอบครัวชาวจีนเสียชีวิตเกือบทั้งครอบครัวเพราะกินอาหารเหลือในตู้เย็นเมื่อหลายปีก่อน กลับมาเผยแพร่อีกครั้ง บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและโภชนาการก็รีบออกมาให้คำแนะนำในการละลายน้ำแข็งอาหารที่แช่ค้างไว้ในช่องแช่แข็งอย่างถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายร้ายแรง

เหตุการณ์ของครอบครัวชาวจีนในกรณีศึกษานี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2563 สมาชิกของบ้านซึ่งมีทั้งหมด 12 คน รับประทานอาหารเช้าซึ่งมีเส้นก๋วยเตี๋ยวอย่างหนา ทำจากแป้งข้าวโพดหมัก เรียกว่าซวนถังจือ เป็นส่วนประกอบหลัก

ปัญหาอยู่ที่ว่าเส้นก๋วยเตี๋ยวซวนถังจือนี้ไม่ใช่ของสดใหม่ หากเป็นของที่คนในบ้านทำเก็บไว้ในช่องแช่แข็งของตู้เย็นเป็นเวลานานถึง 1 ปีก่อนหน้านั้น

สมาชิกจำนวน 9 คนของครอบครัวนี้กินซวนถังจือเข้าไปเกิดป่วยหนักในเวลาต่อมา มีเพียงเด็ก ๆ 3 คนในบ้านที่ไม่ป่วยเพราะไม่ชอบรสชาติของมัน จึงไม่ได้กินก๋วยเตี๋ยวดังกล่าว

ผู้ป่วยทั้ง 9 รายมีอาการอาหารเป็นพิษอย่างรุนแรง ทั้งคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องอย่างหนัก และถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้รับการรักษาในโรงพยาบาล แต่ทั้งหมดก็เสียชีวิตในอีกหลายวันหลังจากนั้น

ผลจากการสืบสวนของทางการพบสารพิษตกค้างในตัวผู้ป่วยและในน้ำซุปโดยมีสาเหตุมาจากการนำเส้นก๋วยเตี๋ยวค้างปีมาลวกกิน ซึ่งในเส้นก๋วยเตี๋ยวมีแบคทีเรียที่ให้สารพิษชื่อว่ากรดบงเกรกิก สารตัวนี้ เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะส่งผลต่อกลไกการหายใจในระดับเซลล์ และเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต 

สารพิษบงเกรกิกหรือแบคทีเรียที่ให้สารพิษชนิดนี้จะพบในอาหารประเภทหมักดอง โดยเคยมีรายงานวิจัยไว้ว่าผู้ที่กินอาหารปนเปื้อนสารนี้เข้าไปมีอัตราการตายสูงถึง 40-100%

หน่วยงานตรวจสอบความปลอดภัยอาหารจากกระทรวงเกษตรสหรัฐ ออกแถลงการณ์ระบุว่า เมื่อจะละลายอาหารแช่แข็ง ควรวางแผนล่วงหน้าและนำออกจากช่องแช่แข็งลงมาแช่ไว้ในช่องธรรมดาของตู้เย็นเพื่อละลายน้ำแข็งบางส่วนออกเสียก่อน อาหารที่อยู่ในอุณหภูมิคงที่ที่ 4 องศาเซลเซียสหรือต่ำกว่าจะมีความปลอดภัยมากกว่า มีโอกาสเกิดแบคทีเรียสะสมน้อยกว่า 

สิ่งที่ไม่ควรทำก็คือการนำอาหารที่เน่าเสียง่ายวางทิ้งไว้บนเคาน์เตอร์ครัวหรือแช่ทิ้งไว้ในน้ำร้อน และไม่ควรทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องนานเกิน 2 ชั่วโมง

สำหรับวิธีการละลายน้ำแข็งอาหารจากช่องแช่แข็งอย่างปลอดภัยนั้นมี 3 แบบคือทิ้งให้ละลายหรืออ่อนตัวในตู้เย็น ทิ้งไว้ในน้ำเย็น และละลายน้ำแข็งด้วยเตาไมโครเวฟ

วิธีการละลายน้ำแข็งจากอาหารแช่แข็งด้วยน้ำเย็นนั้น เป็นวิธีที่ทำได้เร็วกว่าการปล่อยทิ้งไว้ในตู้เย็น ซึ่งต้องวางแผนล่วงหน้าเป็นเวลานาน และทำได้ง่ายโดยใส่อาหารลงใส่ถุงที่ปิดได้มิดชิดเพื่อป้องกันไม่ให้แบคทีเรียหลุดรอดออกมาจากอาหารหรือวัตถุดิบ จากนั้นก็นำถุงอาหารไปแช่ไว้ในน้ำธรรมดา เปลี่ยนน้ำทุกครึ่งชั่วโมงจนกว่าอาหารหรือวัตถุดิบจะพร้อมใช้

แต่ถ้าเลือกการละลายน้ำแข็งด้วยเตาไมโครเวฟ ก็ควรจะนำมาปรุงอาหารทันทีที่ละลายน้ำแข็งเสร็จ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน ซึ่งเป็นโอกาสให้แบคทีเรียในอาหารหรือวัตถุดิบเจริญเติบโตได้

ที่มา : ladbible.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES