เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 4 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายนิกร จำนง ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา ออกมาระบุว่า การทำประชามติจะไม่ทันการเลือกตั้งครั้งใหม่ ว่า ทันหรือไม่ทัน ไม่ใช่ประเด็นแต่สำคัญคือ การเร่งให้ทันและมีกระบวนการที่ถูกต้องนั้นสำคัญกว่า ทั้งนี้เป็นเรื่องของกฎหมาย ถ้าเรามัวแต่จะเร่งจะรีบเพียงอย่างเดียว เพื่อให้เสร็จ แต่หากมีการผิดพลาดขึ้นมา ตนมองว่าก็ไม่มีใครสามารถรับผิดชอบได้

เมื่อถามว่าแสดงว่ายังคงมั่นใจใช่หรือไม่ ว่ารัฐธรรมนูญฉบับเดิม ยังคงมีประโยชน์กว่า นายไชยชนก กล่าวว่า โดยส่วนตัวมองว่า เวลานี้ควรออกมาพูดกัน ว่าอะไรที่เป็นปัญหาจริงๆ ในการพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศในการดูแลประชาชน หากมีปัญหาชัดๆ ขึ้นมา เชื่อว่าคงจะไม่มีใครติดที่จะแก้เฉพาะส่วนนี้ ตอนนี้ตนได้ยินแต่ให้แก้ แก้ทั้งหมด แต่ไม่ค่อนได้ยินคนพูดว่าแก้ตรงไหน และเมื่อยืนยันว่าไม่แก้มาตรา 112 แต่ไม่ระบุว่าแก้ตรงไหน

นายไชยชนก กล่าวอีกว่า พรรคภูมิใจไทย มองว่า​เรื่องการจัดทำประชามติเป็นเรื่องสำคัญ และเราคิดว่า หากประชาชนเห็นมากพอสมควร จนครึ่งหนึ่งหรือเกินกึ่งหนึ่งของประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ หากเป็นเช่นนั้น เราก็สบายใจแล้วว่า ไม่ว่าเราจะเดินต่อไปอย่างไร จะเป็นรัฐบาลชุดนี้ หรือชุดต่อไป เพราะเรื่องบางเรื่องต้องใช้เวลามากกว่ารัฐบาล 1 ชุด และหากประชาชนเห็นชอบและเป็นประโยชน์ รัฐบาลชุดไหนมาเดินต่อก็เดินได้ พร้อมยกตัวอย่าง MOU 44 ถ้ามีการทำประชามติ แล้วประชาชนเห็นด้วยตรงกันเกิน 50% รัฐบาลชุดไหนมาเดินต่อก็รู้กลไก ก็ต้องรอดูต่อไป ถ้าทุกคนยังต้องการทำเพื่อประโยชน์ประเทศ

เมื่อถามว่าประชามติของพรรคเพื่อไทยระบุว่า คนที่มาใช้ประชามติไม่ถึง 50% นั้น นายไชยชนก กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องคุยในกรรมาธิการ เพราะเพิ่งประชุมรอบแรกไป

เมื่อถามว่าในพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีพรรคไหนที่เสียงแตกแยกในการจะแก้รัฐธรรมนูญ หรือมีอะไรที่เป็นห่วงหรือไม่ นายไชยชนก กล่าวว่า ไม่ห่วง เพราะทุกคนพูดเหมือนกันหมด ว่าจะไม่ตัดมาตรา 112 ออกจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ