นายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน(ทย.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทย. อยู่ระหว่างเสนอยกเลิกสัญญาจ้างโครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ ท่าอากาศยานตรัง วงเงิน 1,070 ล้านบาท ตามระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ก่อนดำเนินการหาผู้รับจ้างรายใหม่มาดำเนินการต่อให้แล้วเสร็จ และเปิดใช้งานต่อไป เนื่องจากผู้รับจ้างไม่เข้าทำงาน และไม่มีบุคลากรประจำที่หน่วยงาน เนื่องจากขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างรุนแรง รวมทั้งไม่สามารถส่งมอบงาน และไม่มีความคืบหน้าการดำเนินงานใดๆ ตามที่แจ้งไว้กับ ทย. ส่งผลทำให้ต้องเปิดให้บริการล่าช้ากว่าแผนที่กำหนด
นายดนัย กล่าวต่อว่า ภายหลังจากสิ้นสุดกำหนดระยะเวลาตามสัญญา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 เม.ย.67 ทย. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ส่งหนังสือถึงผู้รับจ้าง เพื่อแจ้งเรียกค่าปรับกรณีผิดสัญญาจ้าง และหนังสือเร่งรัดให้ส่งงาน 2 งวดที่เหลือ ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ งานทดสอบทุกระบบ ไฟถนน และงานคงเหลือทั้งหมด และหนังสือแจ้งสงวนสิทธิ์บอกเลิกสัญญาจ้าง จากนั้นได้มีการประชุมคณะกรรมการตรวจรับ ผู้ควบคุมงาน ผู้รับจ้าง (ครั้งที่ 1) เพื่อติดตามเร่งรัดงานผู้รับจ้างรับทราบการสงวนสิทธิ์บอกเลิกสัญญา และยังประสงค์จะดำเนินการสร้างต่อ
ต่อมาได้มีการประชุมคณะกรรมการตรวจรับผู้ควบคุมงาน ผู้รับจ้าง (ครั้งที่ 2) แจ้งให้ผู้รับจ้างเร่งเข้าทำงาน ผู้รับจ้างยืนยันจะมีบุคลากรเข้างานภายในวันที่ 5 ต.ค.67 หลังจากนั้นมีการประชุมคณะกรรมการตรวจรับ ผู้ควบคุมงาน ผู้รับจ้าง (ครั้งที่ 3) เนื่องจากยังไม่มีความคืบหน้าจึงแจ้งให้ผู้รับจ้างเร่งรัดเข้าทำงานอีกครั้ง มิฉะนั้นจะบอกเลิกสัญญาจ้าง ซึ่งผู้รับจ้างแจ้งอยู่ระหว่างเจรจาหาแหล่งเงินทุนในวันที่ 16 ต.ค. 67 เพื่อดำเนินการต่อ จนกระทั่งวันที่ 30 ต.ค.67 ในการประชุมคณะกรรมการตรวจรับ ผู้ควบคุมงาน (ครั้งที่ 4) รายงานว่ายังไม่มีการเข้าทำงาน คณะกรรมการมีมติเห็นควรบอกเลิกสัญญาจ้าง เพื่อให้ผู้รับจ้างรายใหม่เข้ามาดำเนินการต่อไป
นายดนัย กล่าวด้วยว่า สำหรับอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ท่าอากาศยานตรัง เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการ จะสามารถรองรับผู้โดยสาร 1,200 คน/ชั่วโมง หรือ 3.4 ล้านคน/ปี ความยาวรันเวย์ 45 x 2,100 เมตร ลานจอดอากาศยานสามารถรองรับอากาศยานแบบ B737/A320 ได้พร้อมกัน 14 ลำ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ลานจอดรถยนต์กลางแจ้งสามารถรองรับรถยนต์ได้ 1,000 คัน สะพานเทียบเครื่องบิน 2 ชุด ลิฟต์โดยสาร 11 ชุด และบันไดเลื่อน 6 ชุด คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 68 ส่วนโครงการก่อสร้างต่อเติมความยาวทางวิ่ง พร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน จากเดิม 45 x 2,100 เมตร เป็น 45 x 2,990 เมตร ปัจจุบันความคืบหน้าการก่อสร้าง ณ ก.ย.67 คืบหน้า 35.97% คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ม.ค.69.
ด้านนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมท่าอากาศยาน (ทย.) เร่งดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ท่าอากาศยานตรังให้แล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการประชาชนภายในสิ้นปี 68 เพื่อรองรับการท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นของจังหวัดตรัง พร้อมทั้งกำชับให้เตรียมความพร้อมให้บริการในทุกด้าน ทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก มาตรการรักษาความปลอดภัย เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการภายในท่าอากาศยานให้มีความรวดเร็ว และเป็นระบบ รวมถึงศักยภาพของบุคลากรที่มุ่งเน้นการให้บริการที่ดี และรวดเร็ว
นางมนพร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังสั่งการให้ ทย. เร่งประสานงานสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) เพื่อเข้ามาทดสอบระบบต่างๆ ให้มีความพร้อมใช้งาน ในส่วนของผู้โดยสารระหว่างประเทศให้เตรียมความพร้อมรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศในอนาคต โดยให้เตรียมความพร้อมด่านตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร ด่านกักกันพื้นที่โรคและสัตว์ รวมถึงด่านตรวจสุขภาพของบุคคลทั่วไป ขณะเดียวกันยังเร่งรัดให้ ทย. ดำเนินโครงการก่อสร้างต่อเติมความยาวทางวิ่ง(รันเวย์)พร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน เป็น 45 x 2,990 เมตร
ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยแก้ปัญหาตั๋วเครื่องบินราคาแพงได้ โดยเฉพาะกรณีที่มีความต้องการในการเดินทางสูง และสายการบินมีจำนวนเที่ยวบินที่จำกัด การต่อเติมความยาวรันเวย์ จะทำให้สายการบินสามารถใช้เครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ขึ้น สามารถเพิ่มความจุผู้โดยสาร และลดแออัดของเที่ยวบินได้ รวมทั้งยังส่งผลให้มีการแข่งขันในด้านราคาจากการที่มีสายการบินที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้โดยสารมีทางเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย และอาจส่งผลให้ราคาตั๋วลดลงในที่สุด.
