เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ บริเวณด้านหน้าอาคารกองบังคับการปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา นางจตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย พร้อมด้วย ทนายสมชาติ พินิจอักษร ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม กรณีแจ้งความร้องทุกข์ทนายดัง ฐานฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท และเข้าให้ปากคำยาวนานร่วม 6 ชม. โดยไม่ได้มีการออกมาพบปะสื่อมวลชนหรือให้สัมภาษณ์แต่อย่างใดนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด ทนายสมชาติ พินิจอักษร ทนายความของนางจตุพร ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตนต้องขออภัยสื่อมวลชนที่ทำให้รอนาน แต่ในส่วนของเนื้อหาคดีเป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนจริง ๆ ที่พนักงานสอบสวนเขาสอบถามหรือขอถ้อยคำจากพยานทั้งหลาย ฉะนั้นจึงต้องขอโทษจริง ๆ อยากให้ข้อมูลทุกฝ่ายว่าความคืบหน้ามันไปถึงไหน

เมื่อถามว่าวันนี้ถือเป็นการสอบปากคำเป็นวันที่ 3 และค่อนข้างใช้เวลานานกว่าสองวันแรก มันมีประเด็นตกหล่น หรือมีการให้ข้อมูลใดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่นั้น ทนายสมชาติ เผยว่า หากพูดกันจริง ๆ คือทุกประเด็นที่ได้ให้เพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน เก็บตกเพิ่มความละเอียดรอบคอบเข้าไป เนื่องจากไม่อยากให้มันมีรูรั่ว จึงให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนมากที่สุดเท่าที่จะให้ได้ รายละเอียดมีเพียงเท่านี้ที่จะบอกได้

เมื่อถามว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการไปตรวจค้นบ้านของผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้นั้น ทนายสมชาติ เผยว่า ทางเราก็เห็นตามสื่อว่าไปที่บ้านใคร ส่วนบ้านที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจค้นจะเป็นบุคคลที่นางจตุพร รู้จักหรือไม่ หรือเป็นสองสามีภรรยาที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับโอนเงินหรือไม่ ตนขอเรียนว่า ถามว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ มันก็เกี่ยวข้องตามเอกสาร หากหมายถึง ส. ทั้งนี้ โดยส่วนตัวบุคคล ส. ท่านนี้เคยรู้จักกันกับนางจตุพร มาก่อนที่จะเกิดเหตุ และเขาเคยไปที่ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยเป็นการไปพร้อมกับทนายความ

เมื่อถามว่านางจตุพร กับ ส. รู้จักกันเพราะคำแนะนำของทนายความหรือไม่นั้น ทนายสมชาติ แจงว่า รูปการณ์จะเป็นเช่นนั้น ส่วนความสัมพันธ์เชิงลึกขนาดไหนตนตอบไม่ได้จริง ๆ แต่เขาไปด้วยกัน ส่วนตัวเลข 39 ล้านบาท ยืนยันว่าเป็นการโอนให้บัญชี ส. หรือไม่ ทนายสมชาติ แจงว่า รายละเอียดมันไปอย่างนั้น

ทนายสมชาติ ระบุด้วยว่า เมื่อช่วงเช้าตนเดินทางมายังกองบังคับการปราบปราม คนละคันกับนางจตุพร แต่ตนเดินเข้าด้านหน้าอาคาร ส่วนนางจตุพร เข้าจากด้านหน้าตึกหรือหลังตึก ตนไม่ทราบจริง ๆ เพราะจริง ๆ ความตั้งใจแรกกะจะมาพบปะกับพี่น้องสื่อมวลชน แต่ทางนางจตุพรค่อนข้างเพลียพอสมควร แต่ไม่ได้ป่วย แค่เพลียจากการเดินทางไปกลับระหว่างกรุงเทพฯ – ปากช่อง ทุกครั้ง นางจตุพรไม่ได้ค้างที่กรุงเทพฯ กลับดึก พักผ่อนน้อย ส่วนเรื่องความกังวลในส่วนของคดี ยืนยันว่าไม่มีแน่นอน เพียงแต่พักผ่อนน้อย พร้อมย้ำว่าจนถึงตอนนี้คู่กรณียังไม่ได้มีการติดต่อมาทางตนแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เมื่อจบการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ทนายสมชาติ ได้กลับเข้าไปภายในอาคาร เพื่อเข้าร่วมรับฟังการสอบปากคำนางจตุพร หรือเจ๊อ้อย ต่อเนื่อง และยังไม่สามารถระบุเวลาเสร็จสิ้นการสอบปากคำในคืนนี้ได้.