เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้พักอาศัยภายในซอยสาทรซอย 7 แยก 4 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร ว่าได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงอาคารที่พัก อาศัยขนาด 8 ชั้นแห่งหนึ่ง ที่อยู่ติดกับบ้านพัก รวมถึงยังมีการสร้างตึกใหม่สูงประมาณ 3 ชั้น ติดกับด้านหลังบ้าน ทำให้เกิดความเดือดร้อนในการพักอาศัย จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ ก็พบว่าอาคารที่พักอาศัยขนาด 8 ชั้นดังกล่าว มีกำแพงอยู่ใกล้บ้านผู้พักอาศัยระยะห่างประมาณ 50 เมตร ส่วนตึก 3 ชั้น ด้านหลังมีผนังตึกห่างจากบ้านพักเพียงแค่ 1 เมตร และมีคอมเพรสแอร์วางอยู่ใกล้บ้าน รวมทั้งไม่เห็นป้ายคำสั่งห้ามใช้อาคารของเขตที่มาติดไว้บริเวณตึกทั้ง 2 แห่ง แต่อย่างใด
ตัวแทนผู้พักอาศัย เปิดเผยว่า อาคารที่พัก 8 ชั้นแห่งนี้ ถูกสร้างมานานแล้วแต่มีการรีโนเวทเมื่อปลายปี่ที่ผ่านมา โดยมีการต่อเติมเพิ่มขึ้นไปอีก 2 ชั้น ระหว่างที่ดำเนินการรีโนเวทนั้น ก็มีเศษวัสดุจากการก่อสร้างหล่นเข้ามาในบ้าน รวมถึงฝุ่นจากการก่อสร้างด้วย ทำให้ตนได้ส่งเรื่องร้องเรียนเข้าไปยังสำนักงานเขตสาทร เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบว่า การก่อสร้างปรับปรุงในครั้งนี้ถูกต้องหรือไม่ เพราะเมื่อดูระยะร่นของกำแพงอาคารก็แคบมาก ไม่น่าจะเท่าระยะตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งการต่อเติมที่เพิ่มขึ้นจากเดิมนั้น จะทำให้เข้าข่ายการเป็นอาคารสูงขนาดใหญ่หรือไม่ อีกทั้งด้านหลังก็ยังสร้างตึกใหม่ขนาด 3 ชั้นขึ้นมาด้วย ทำให้ตอนนี้บ้านเหมือนถูกล้อมรอบ นอกจากจะบังทิศทางลมแล้ว ยังหวั่นเกิดอันตรายหากเกิดไฟไหม้ขึ้นมา อาจทะให้เพลิงลุกลามเข้ามาที่บ้านได้ง่ายหรือโจรสามารถปีนข้ามรั้วเข้ามาในบ้านของตนได้ง่ายอีกด้วย
ตัวแทนผู้พักอาศัย เปิดเผยต่อไปว่า จากนั้นเจ้าที่โยธาเขตสาทร ได้ลงมาดูพื้นที่ตามที่ร้องเรียนไป ก่อนมีหนังสือตอบกลับมาจากสำนักงานเขตสาทร ในวันที่ 16 ก.ย. 67 ว่า จากการตรวจสอบ อาคารหลังดังกล่าว ปรากฏว่ามีการดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น จึงได้มีคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ระงับการก่อสร้าง การดัดแปลง การรื้อถอน หรือการเคลื่อนย้ายอาคาร ตามมาตรา 40 (1) ลงวันที่ 12 กันยายน 2567 คำสั่งห้ามใช้อาคารหรือเข้าไปในส่วนใดๆ ของอาคาร หรือบริเวณที่มีการก่อสร้างฯ ตามมาตรา 40 (2) ลงวันที่ 12 กันยายน 2567 และคำสั่งให้ยื่นคำขออนุญาตหรือดำเนินการแจ้งหรือดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงการก่อสร้างการดัดแปลงการรื้อถอนหรือการเคลื่อนย้ายอาคารตามมาตรา 41 ลงวันที่ 12 กันยายน 2567
ส่วนอาคารด้านหลัง 3 ชั้น มีดาดฟ้า จากการตรวจสอบมีใบอนุญาตก่อสร้างอาคารถูกต้อง โดยขอใช้เป็นสำนักงาน-ที่อยู่อาศัย ในซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 7 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงทุ่งมหาเมฆ ปรากฏว่ามีการก่อสร้างอาคารผิดไปจากแผนผังบริเวณแบบแปลนที่ได้รับอนุญาต จึงได้มีคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ระงับการก่อสร้าง การดัดแปลงฯ ตามมาตรา 40 (1) ลงวันที่ 29 สิงหาคม 2567 คำสั่งห้ามใช้อาคารหรือเข้าไปในส่วนใดๆของอาคาร หรือบริเวณที่มีการก่อสร้างฯ ตามมาตรา 40 (2) ลงวันที่ 29 สิงหาคม 2567 และคำสั่งให้ยื่นคำขออนุญาตหรือดำเนินการแจ้งหรือดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงการก่อสร้างการดัดแปลงการรื้อถอนหรือการเคลื่อนย้ายอาคารตามมาตรา 41 ลงวันที่ 29 สิงหาคม 2567 พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่เขตก็ได้ดำเนินการนำเอกสารมาติดป้ายบริเวณตึกทั้งสอง แต่กลับพบว่า ทั้งสองตึก ได้มีการฝ่าฝืนด้วยการฉีกเอกสาร ที่ทางเขตติดป้ายห้ามใช้อาคารออกและดำเนินการเข้าไป ปรับปรุงอาคารเช่นเดิม ทำให้ตนโทรฯ กลับไปแจ้งเจ้าหน้าที่โยธาเขต แต่เจ้าหน้าที่ระบุว่ายังไม่ว่างและจนถึงปัจจุบันนี้รวมระยะเวลาแล้วกว่า 1 เดือนก็ยังไม่เห็นเจ้าหน้าที่เขตเข้ามาดำเนินการแต่อย่างใด ยังเห็นทั้ง 2 ตึก มีการก่อสร้างดัดแปลงปรับปรุงจนใกล้แล้วเสร็จ และเตรียมเปิดใช้งาน
ตัวแทนผู้พักอาศัย เปิดเผยต่อไปว่า ดังนั้นสิ่งที่ตนอยากร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนให้เป็นกระบอกเสียงให้ ก็คืออยากให้เจ้าหน้าที่เขตสาทร บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมายที่ใช้ควบคุมการก่อสร้างอาคาร ไม่ใช่ทิ้งระยะเวลานาน เมื่อสอบถามไป กลับได้แต่คำตอบว่าเจ้าหน้าที่ยังไม่ว่าง จึงยังไม่ได้เข้ามาตรวจสอบ จึงวอนขอให้ผู้บริหารเขตเร่งรัดตรวจสอบให้ดำเนินการถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยของผู้พักอาศัย ทั้งเรื่องระยะร่นของอาคารที่พักทั้ง 2 ตึก ที่หากเกิดเพลิงไหม้ หรือมีโจร ก็สามารถปีนข้ามรั้วบ้านมาได้ทันที
ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง นายธวัชชัย แพงไทย ผอ.เขตสาทร ถึงเรื่องดังกล่าว โดย ผอ.เขตสาทร ระบุว่า เบื้องต้นทราบว่ามีการออกเอกสารห้ามใช้อาคารในพื้นที่เขตสาทร แต่ยังไม่ได้ตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด อย่างไรก็ตามในกรณีความเดือดร้อนของประชาชนผู้พักอาศัยในซอยสาทร 7 แยก 4 นั้น จะดำเนินการตรวจโดยเร่งด่วน ว่าได้ดำเนินการถึงขั้นตอนไหนแล้ว ทั้งนี้หากพบว่าเจ้าของอาคาร มีการกระทำผิดจริงโดยฝ่าฝืนคำสั่งห้ามใช้อาคาร แต่ยังเข้าไปใช้หรือยังคงมีการก่อสร้าง ก็จะต้องแจ้งความกับตำรวจในท้องที่เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนในกรณีที่ผู้พักอาศัยแจ้งมาแล้ว เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังไม่ดำเนินการลงไปตรวจสอบ และทิ้งระยะไว้เนิ่นนานนั้น ตนก็จะตรวจสอบอีกครั้งว่าเหตุใดจึงปล่อยทิ้งระยะเวลาไม่ดำเนินการ เพราะแท้จริงแล้วไม่สามารถอ้างได้ว่าไม่ว่าง ทั้งนี้จะเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ลงไปดำเนินการตรวจสอบอาคารดังกล่าวอีกครั้ง หากพบว่ามีความผิดจริง ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป.