สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ว่า สถานการณ์ควันพิษในเมืองหลวงของอินเดียเลวร้ายลงยิ่งขึ้น เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากประชาชนฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการควบคุมมลพิษแห่งกรุงนิวเดลี ในการ “ห้ามขายและห้ามใช้พลุไฟ” รวมถึงระหว่างช่วงเทศกาลสำคัญทางศาสนา
แม้ตำรวจในเมืองหลวงสามารถยึดพลุได้เกือบ 2 ตัน ก่อนถึงเทศกาลดิวาลี แต่พลุเหล่านี้ยังคงวางขายอยู่ทั่วไป ตามรัฐที่อยู่ใกล้เคียง
ในเทศกาลดิวาลี ชาวเมืองเฉลิมฉลองด้วยการรับประทานอาหารร่วมกับครอบครัวที่บ้าน และจุดเทียนเพื่อสรรเสริญพระแม่ลักษมี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะของแสงสว่างเหนือความมืด ขณะที่ชาวเมืองจำนวนไม่น้อย จุดพลุและดอกไม้ไฟตลอดทั้งคืน
แม้จะมีคำสั่งจากทางการ แต่เจ้าหน้าที่มักลังเลในการจับกุม และลงโทษประชาชน เนื่องจากการจุดพลุเชื่อมโยงกับความเชื่อของศาสนาฮินดู ด้านบรรดานักวิจารณ์ให้ความเห็นว่า การโต้แย้งกับนักการเมืองคู่แข่งในรัฐเพื่อนบ้าน และความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานระดับกลางและระดับรัฐ ทำให้ปัญหาทวีความรุนแรงขึ้น
หลังจากรุ่งสางไม่นาน ระดับฝุ่นพิษ PM2.5 ในกรุงนิวเดลี พุ่งทะลุ 345 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตามรายงานของบริษัทตรวจสอบสภาพอากาศไอคิวแอร์ แซงหน้าเมืองลาฮอร์ของปากีสถาน ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางตะวันตกเฉียงเหนืออีกราว 400 กิโลเมตร
ก่อนหน้านี้ เทศบาลกรุงนิวเดลีพยายามขับเคลื่อนนโยบายลดมลพิษ ด้วยการจำกัดการจราจรของยานพาหนะ และกำหนดให้รถยนต์ที่มีป้ายทะเบียนเลขคี่หรือเลขคู่วิ่งสลับวันกัน รวมถึงห้ามการก่อสร้าง และไม่อนุญาตให้รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเดินทางเข้าเมือง ภายในช่วงเวลาที่กำหนด.
เครดิตภาพ : AFP