จากกรณีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกาย นายธรรมราช สาระปัญญา หรือ “ทนายธรรมราช” ขณะกำลังแถลงข่าวแจ้งจับ “อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม” ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดยตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ทันควัน ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงหนึ่งของรายการโหนกระแส ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย” กำลังสัมภาษณ์ “คนตื่นธรรม” ถึงประเด็นเรื่องที่มีคนพาดพิงว่า จ้างคนไปทำร้ายหรือไม่

โดยอาจารย์เบียร์ หรือ คนตื่นธรรม กล่าวว่า “ยืนยันว่าไม่ได้ส่งใครไป ก็พอทราบมาบ้างว่าในรายการโหนกระแสครั้งนั้น มีประเด็นที่ทำให้หลายคนไม่พอใจ จนถึงขั้นไปแจ้งความ แต่ตนยืนยันว่า เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในบ้านเรา ประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไม่มีเจตนาไปตำหนิ หรือห้ามในการก่อการสร้าง แต่การก่อการสร้างต้องรู้จักพอดี พอประมาณในการก่อการสร้าง”

“อีกทั้ง ไม่ใช่สร้างเรี่ยไรเงินทองเข้ามา เพื่อสร้างวัตถุสถานที่อย่างเดียว แต่ไม่สร้างจิตใจคน ไม่สร้างพระธรรมพระวินัย เพื่อเข้าไปอยู่ในจิตใจของพระ สิ่งที่พูดไม่มีเจตจำนงในการทำลายศาสนา แต่เพื่อรักษาไว้ ประคับประคองไว้ เพื่อพระธรรมวินัย จะได้สืบสานต่อไว้ ไม่ขาดสายในการศึกษาร่ำเรียนในการปฏิบัติธรรมของพระองค์”

นอกจากนี้ “หนุ่ม กรรชัย” พิธีกรรายการโหนกระแส ถามอาจารย์เบียร์อีกว่า ทนายธรรมราช แจ้งความมาตรา 206 และ พ.ร.บ.คอมพ์ รู้สึกอย่างไร เสียใจไหม โดยอาจารย์เบียร์ ก็กล่าวทันทีว่า “ก็ไม่รู้สึกเสียใจ รู้สึกเฉยๆ รู้สึกว่าเรื่องไร้สาระ ไม่มีประโยชน์ ไม่มีแก่นสาร พระพุทธเจ้าเรียกแบบนี้ว่า “เพ้อเจ้อ” คือ ไม่มีเงื่อนต้นเงื่อนปลาย ไม่มีที่มาที่ไป ไม่มีจุดเริ่มต้น ไม่มีจุดสิ้นสุด ไม่เกี่ยวข้องกับอรรถกับธรรม”

“เพราะฉะนั้น สิ่งที่ไปร้องเรียน อาจารย์ยืนยันชัดเจน คือ หลักคำสอนของพระพุทธเจ้า แทนที่จะขวนขวายช่วยกันทำประโยชน์ต่อพระศาสนา แต่กลับมาขวางธรรม เพราะเรื่องๆ เดียว ประโยคเพียงประโยคเดียว แทนที่จะไปมองภาพรวม มองในส่วนที่เป็นประโยชน์ ไม่เอาออกมาชื่นชม แต่หยิบมาซ้ำเติมในบางประโยค ที่ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียดเอาเอง อย่างนี้ใช้ไม่ได้” อาจารย์เบียร์ กล่าว

ขอบคุณข้อมูล : รายการโหนกระแส