สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับการประจำการอาวุธยุทโธปกรณ์ เพิ่มเติมในภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมถึง เรือพิฆาตติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธ และเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ บี-52 โดยการติดตั้งและประจำการทรัพย์สินทางทหารเพิ่มเติมดังกล่าว “จะเกิดขึ้นภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า”
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น หลังกองทัพสหรัฐเพิ่งส่งมอบระบบป้องกันทางอากาศ “ทาด” ให้อิสราเอล เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ต่อจากการที่อิสราเอลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในอิหร่าน เมื่อวันที่ 26 ต.ค. เพื่อเอาคืนการยิงขีปนาวุธของอิหร่าน ซึ่งโจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยเป็นการยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลโดยอิหร่าน เป็นครั้งที่สองในปีนี้ ต่อจากเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การโจมตีอิสราเอลโดยอิหร่าน เกิดขึ้นเพื่อตอบโต้ที่อิสราเอลสังหารทหารระดับสูงของอิหร่านหลายนายในซีเรีย เมื่อเดือน เม.ย. และการที่อิสราเอลสังหารสมาชิกระดับสูงหลายคนของแนวร่วม “อักษะแห่งการต่อต้าน” รวมถึงนายฮัสซัน นาสราลเลาะห์ ผู้นำสูงสุดของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำสูงสุดฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES