สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมาดริด ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ว่าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งแคว้นบาเลนเซีย ทางตะวันออกของสเปน รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมและดินถล่มครั้งใหญ่ในพื้นที่ ซึ่งเป็นผลจากอิทธิพลของพายุที่ก่อตัวในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และส่งผลให้ฝนตกกระหน่ำมากผิดปกติ ตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 202 ราย
ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตในแคว้นกัสติยา-ลามันชา ซึ่งอยู่ทางตอนกลาง และทางการแคว้นอันดาลูซิอา ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสเปน ยืนยันผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย และ 1 รายตามลำดับ
ด้านกองทัพสเปนระดมกำลังทหารเพิ่มอีก 500 นาย เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัย และสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัย หลังก่อนหน้านั้นมีการกระจายกำลังพลลงพื้นที่แล้วประมาณ 1,200 นาย
ขณะที่นายอังเกล วิกเตอร์ ตอร์เรส รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของสเปน กล่าวว่า หน่วยงานทุกแห่งที่เกี่ยวข้องจะดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาด จัดการกับกลุ่มบุคคลซึ่งก่อเหตุลักขโมย และปล้นสะดมในพื้นที่ประสบภัย หลังมีรายงานตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุได้ราว 50 คน
นอกจากนี้ ครัวเรือนราว 75,000 แห่งยังคงประสบกับปัญหาไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ในเวลาเดียวกัน นายออสการ์ ปูเอ็นเต รมว.กระทรวงคมนาคมสเปน เตือนทุกฝ่ายว่า อาจต้องใช้เวลานานถึง 3 สัปดาห์ ในการที่จะกลับมาเปิดใช้งานเส้นทางรถไฟความเร็วสูง ที่เชื่อมระหว่างกรุงมาดริดกับแคว้นบาเลนเซีย
อนึ่ง สถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดของสเปน นับตั้งแต่น้ำท่วมครั้งใหญ่ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 150 ราย เมื่อปี 2516 และเพิ่มความวิตกกังวลให้กับทุกฝ่าย เกี่ยวกับความรุนแรงที่เป็นผลจากภาวะความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก โดยในที่ตกในสเปนสัปดาห์นี้มีปริมาณมากกว่า ช่วงเวลาก่อนที่โลกจะเผชิญกับภาวะโลกร้อนราว 12%.
เครดิตภาพ : AFP