เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่อาคารอนาคตใหม่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน จัดแถลง Policy Watch ในเรื่องประเทศไทยควรทำอย่างไรกับปัญหาเมียนมา ว่า เรื่องนี้หลายครั้งถูกนำมาสู่การดิสเครดิตพรรคประชาชนว่าเป็นพรรคประชาชนเมียนมา จึงอยากใช้โอกาสนี้ชี้แจงเพราะเป็นเรื่องสำคัญเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประเทศไทย ตนยืนยันว่าการพยายามดิสเครดิตว่าเป็นพรรคประชาชนเมียนมานั้น เป็นเฟคนิวส์ พรรคประชาชนเป็นเพียงพรรคการเมืองที่พยายามรักษาผลประโยชน์ของคนไทย และพยายามชี้ให้ชัดว่านโยบายต่างประเทศและความมั่นคงชายแดนมีปัญหาและส่งผลกระทบต่อคนไทย 

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ในความจริงแล้วคนเมียนมาอยู่ในสังคมไทยมาช้านาน เป็นส่วนหนึ่งของกลไกทางเศรษฐกิจ เป็นส่วนหนึ่งของสังคม และจะพบว่าสถานการ์การสู้รบวันนี้ในประเทศเมียนมานั้นเลวร้ายและรุนแรงมากตั้งแต่รัฐประหารทำให้มีผู้พลัดถิ่น 3.5 ล้านคน มีอยู่ตามแนวชายแดนไทย 7.6 แสนคน และหากสถานการณ์อย่างเลวร้ายต่อไปเรื่อย ๆ คนเหล่านี้มีแนวโน้มข้ามมาประเทศไทยมากขึ้น โดยที่เรายังไม่มีการจัดการอะไรเลย ต้องยอมรับว่าวันนี้มีชาวเมียนมาอยู่ในประเทศไทยกว่า 6 ล้านคน

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การที่ชาวเมียนมาเข้ามาอยู่ในประเทศไทยนั้นมีปัญหาเรื่องการทุจริตเกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่รัฐที่เก็บส่วยจากชาวเมียนมาที่เข้ามาอย่างไม่ถูกกฎหมาย ปีละเกือบแสนล้านบาท เป็นความน่าหดหู่ของระบบราชการไทย ส่งผลกระทบถึงความเสียหายของเศรษฐกิจ ตนจึงเห็นว่าทำไมไม่ทำให้ส่วยกลายเป็นภาษีเพราะนี่โอกาส และผลประโยชน์ที่ประเทศไทยควรจะได้รับ 

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า  ตนเสนอ 5 แนวทางการแก้ไขปัญหาเมียนมา เพื่อทำให้วิกฤติกลายเป็นโอกาส แนวทางที่ 1 คือ ขึ้นทะเบียนชาวเมียนมาทุกคนที่อยู่ในไทยให้ถูกกฎหมาย แก้ปัญหาเรื่องส่วยเป็นภาษี แก้ปัญหาอาชญากรรม แนวทางที่ 2 ด้านการศึกษาให้บุตรหลานแรงงานเมียนมา ให้มีความรู้ภูมิต้านทานไม่ให้กลายเป็นเหยื่ออาชญากรรม 

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า แนวทางที่ 3 ด้านสาธารณสุขสิทธิรักษาพยาบาล เปลี่ยนส่วยแรงงานเมียนมามาเป็นภาษีพัฒนาสาธารณสุขเพื่อทุกคน แนวทางที่ 4 นโยบายด้านความมั่นคงชายแดนเมียนมา ที่ต้องจัดการควบคุมทรัพยากรจากไทยไม่ให้ตกไปอยู่ในมือมิจฉาชีพใช้ผลิตยาและทำสแกม เช่น ไฟฟ้า น้ำมัน อินเทอร์เน็ต 

นายรังสิมันต์ แนวทางที่ 5 สนับสนุนประชาธิปไตยในเมียนมาให้กลับมามีเสถียรภาพ ประเทศไทยสามารถเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้เกิดสันติภาพในเมียนมาได้ ประเทศไทยต้องส่งสัญญาณว่าไม่เห็นด้วยกับการเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ ประเทศไทยต้องช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจริง ๆ ประเทศไทยต้องหยุดสนับสนุนทรัพยากรต่อรัฐบาลทหารเมียนมา และประเทศไทยต่องร่วมมือกับฝ่ายต่าง ๆ เพื่อหยุดยั้งกิจกรรมผิดกฎหมายตามแนวชายแดน 

ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ยืนยันว่า พรรคประชาชนไม่มีนโยบายให้สัญชาติกับคนเมียนมา แต่ต้องการคืนสิทธิให้กับคนไทยที่ตกสำรวจไม่ใช่ชาวเมียนมา ส่วนที่หาว่านำเงินคนไทยไปดูแลชาวเมียนมาก็ขอยืนยันอีกว่า พรรคประชาชนมีนโยบายเปลี่ยนส่วยเป็นภาษี และคำถามที่ว่าทำไมถึงไม่ผลักดันแรงงานเมียนมากลับประเทศไป เรื่องนี้ต้องให้ภาคธุรกิจจะสามารถตอบได้ดีว่าหากผลักดันแรงงานเหล่านี้กลับ เศรษฐกิจไทยจะเป็นอย่างไร 

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การที่พรรคประชาชนพูดถึงนโยบายและการแก้ปัญหาเมียนมาคือการพูดถึงว่า ประเทศไทยไม่สมควรเจอวิกฤติและต้องการแก้ปัญหาที่ต้นตอ นโยบายของพรรคไม่ใช่ทำเพื่อคนเมียนมาแต่คือการทำเพื่อคนไทย ทำเพื่อประเทศไทย จึงขอให้หยุดใส่ร้ายพรรคประชาชน ท่านอาจจะไม่ชอบพรรคประชาชนไม่เป็นไร แต่ให้มาคุยกันด้วยข้อเท็จจริงและจะสร้างทางออกให้ประเทศไทยได้ 

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า หากใส่ร้ายกันด้วยข้อความสั้น ๆ เพื่อสร้างความเกลียดชังสร้างวาทกรรม จนทุกฝ่ายเกิดความหวาดกลัวไม่กล้าพูดอะไร สุดท้ายก็จะไม่นำไปสู่การแก้ปัญหาอะไรเลย ตนหวังว่าเรื่องเหล่านี้จะดังไปถึงรัฐบาลให้ช่วยกันแก้ปัญหา ช่วงเวลาที่ผ่านมากลไกสภาถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ายังมีความบกพร่องอยู่เยอะ ทั้งความขัดแย้งกันเองของพรรคการเมือง ไปจนถึงการขัดแย้งกันเอง ของรัฐบาล สิ่งเหล่านี้ทำให้การเมืองที่ผ่านมาเดินได้ยาก แต่เชื่อว่าทุกคนจะให้ความสำคัญของประชาชน