จากกรณีตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง จับกุมผู้ต้องหา 7 ราย เป็นตำรวจ 6 นาย สังกัด บก.สอท.1 และพลเรือน 1 ราย ร่วมกันก่อเหตุใช้หมายค้นบุกตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งใน ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จับนายไซ สัญชาติวานูอาตู พร้อมด้วยภรรยา และคนจีน แม่บ้านรวม 5 คน ข่มขู่กรรโชกทรัพย์เรียกรับเงิน 300 ล้านบาท หรือ เงินสกุลดิจิทัล จำนวน 10 ล้าน USDT (1USDT เท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 33 บาท) เพื่อแลกกับการจบคดีและไม่ถูกดำเนินคดี

เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า ได้สั่งกำชับให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ดำเนินการเร่งรัดสั่งการสืบสวนจับกุมตัวมาดำเนินคดี และให้ต้นสังกัดดำเนินการทั้งวินัย อาญา อย่างเด็ดขาด โดยให้สืบสวนขยายผลผู้มีส่วนในการกระทำผิด ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด แล้วรายงานผลให้ทราบโดยเร็วเป็นตำรวจทำผิดต้องรับโทษ จะไม่มีละเว้น ทำดีต้องยกย่องเชิดชูให้รางวัล

ขณะที่ พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รรท.ผบช.สอท. ลงนามในคำสั่ง 209/2567 ลงวันที่ 21 ต.ค. เรื่องให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการ ใจความว่า กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ได้มีคำสั่งที่ 96/2567 ลงวันที่ 18 ตุลาคม เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น

ฉะนั้นเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการตรวจสอบข้อเท็จจริงและมิให้เข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ให้ ร.ต.อ.ธนกฤต กาญจนมาศ รองสว.กก.1 บก.สอท.1, ด.ต.สุพรรณ ของใส, จ.ต.กิตติภูมิ จีนแปลงชาติ ผบ.หมู่กก.1 บก.สอท.1 ไปช่วยราชการที่ศปก.บช.สอท. โดยให้ขาดจากตำแหน่ง

ทั้งนี้ มีรายงานว่าคำสั่งดังกล่าวนั้น มาจากกรณีที่มีผู้ร้องเรียนว่ามีตำรวจไซเบอร์ทั้ง 3 นาย ได้ไปคุมตัวคนจีน 4 คนจากบ้านพักในพื้นที่บางแก้ว โดยอ้างว่าเอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และตรวจค้นพลการโดยไม่มีหมายค้นนำตัวมายัง บก.สอท.1 สอบสวนพร้อมกับมีการเรียกรับเงิน 5.7 ล้านบาท แลกกับการปล่อยตัวเหตุเกิดวันที่ 17 ต.ค.

หลังทราบเรื่องทาง พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 ได้ออกคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมอบ พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รองผบก.สอท.1 เป็นประธานกรรมการให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จใน 30 วัน