นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การปรับขึ้นราคาปาล์มน้ำมันขวดละ 10 บาท ว่า ราคาปาล์มที่สูงเป็นไปตามฤดูกาล เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง ทำให้ราคาสูงขึ้น แต่จะเป็นแค่ชั่วคราวไม่นาน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ ได้เข้าไปดูแลให้เกิดความสมดุล เกษตรกรขายผลผลิตได้ราคาดีและผู้บริโภคไม่ต้องบริโภคน้ำมันปาล์มขวดแพงเกินไป และห้ามขาดแคลน
ทั้งนี้ สั่งการให้กรมการค้าภายใน จัดทำมาตรการดูแลปาล์มน้ำมัน โดยในระยะสั้นโดยห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ เพื่อรักษาสต๊อกในประเทศเพียงพอ และดูแลราคาน้ำมันปาล์มขวดให้เหมาะสม สต๊อกเก่าราคาเดิม แต่สูงสุดไม่เกินขวดละ 50 บาท หรือหากจำเป็น ก็ปรับลดการใช้น้ำมันปาล์มในไบโอดีเซลลงมา เพื่อคงไว้สำหรับการบริโภค
ด้านนายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า นายวิทยากร มณีเนตรโฆษกกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือกับสมาคมโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม และสมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม ถึงแนวทางการบริหารจัดการสต็อกน้ำมันปาล์มให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพียงพอต่อการบริโภคและภาคอุตสาหกรรม โดยพบว่า ขณะนี้สต๊อกยังมีเพียงพอเกินกว่า 2 แสนตัน และทางสมาคมฯ ยังยืนยันที่จะไม่ส่งออกน้ำมันปาล์มดิบในช่วงนี้ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
“สาเหตุที่ผลผลิตปาล์มน้ำมันลดลง เนื่องจากเจอภัยแล้งและโรคระบาดอีกทั้งเป็นฤดูกาลที่ ผลผลิตจะออกน้อยช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.67 อยู่แล้ว ส่งผลให้ราคาผลปาล์มอยู่ที่ กก.ละ 8-9 บาท ซึ่งเป็นผลดีต่อเกษตรกร ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น และคาดว่าสถานการณ์ผลผลิตจะกลับสู่ภาวะปกติตั้งแต่เดือน ม.ค.ปีหน้า
ส่วนราคาน้ำมันปาล์มขวด ขณะนี้จำหน่ายในราคาตั้งแต่ 43-48 บาทต่อขวด และมีปริมาณเพียงพอ ซึ่งประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกไป โดยกรมได้หารือกับห้างค้าปลีกค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า และห้างท้องถิ่น เพื่อขอความร่วมมือให้ตรึงราคาให้นานที่สุดและจัดโปรโมชันลดราคาต่อเนื่อง ที่สำคัญหากจะมีการปรับขึ้นราคาจำหน่าย จะต้องแจ้งให้กรมทราบก่อนทุกครั้ง หรือหากพื้นที่ใดได้รับสินค้าช้า หรือไม่เพียงพอ ให้รีบแจ้งมายังกรม เพื่อเข้าไปดูแล
ทั้งนี้ กรมและสำนักงานพาณิชย์จังหวัด จะติดตามสถานการณ์น้ำมันพืช และราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง หากพบผู้ประกอบการดำเนินการใด ๆ โดยจงใจที่จะทำให้ราคาสูงเกินสมควร หรือทำให้ปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้าหรือบริการใดจะดำเนินการตามกฎหมายต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยประชาชนสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือทางแอปลิเคชัน[email protected] และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ