อ้วนซ่าได้ไปสัมผัสรถคันจริง แต่ยังไม่ได้ลองขับ แต่จากความรู้สึกแรกพบนั้น รถสไตล์เอ็มพีวี (MPV) ทรงลู่ลม หรือที่ทางบริษัทเขาเรียกว่า คูเป้เอ็มพีวี (Coupe MPV) คันนี้เป็นไปในทางบวก เพราะมันอัดแน่นไปด้วยงานออกแบบที่ลงตัว มีความล้ำสมัย และสร้างขึ้นอย่างปราณีต เหมาะกับครอบครัวคนรุ่นใหม่ที่มองหารถยนต์ที่ไปกันได้ทั้งครอบครัว เพราะมีเบาะนั่งแบบสบายเต็มพิกัด ถึง 7 ที่นั่ง

ด้านรูปลักษณ์นั้นโดดเด่นด้วยทรงรถสไตล์เหลี่ยมทรงลิ่ม (Wedge Shape) เรียวแหลม ดูล้ำสมัย ไม่เหมือนรถรุ่นใดในท้องตลาด มันดูเฉียบคมและกระชับ สบายตา แต่อย่าให้รูปทรงลู่ลมของมันทำให้คุณคิดว่ารถคันนี้จะคันเล็ก หรือคับแคบ เพราะมันยาวถึง 5.29 เมตร และกว้างถึง 1.988 เมตร กับฐานล้อที่ยาวถึง 3.16 เมตร ยาวกว่าเจ้าตลาดอย่างโตโยต้า อัลฟาร์ด (Alphard) ถึง 16 เซนติเมตร แต่กลับไม่รู้สึกเทอะทะเลยแม้แต่น้อย และจากการทดลองนั่ง มันปลอดโปร่ง สบายใช้ได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งของคนขับ หรือผู้โดยสารแถวที่สอง หรือแถวที่สามก็ตาม

รูปลักษณ์ที่ลู่ลมของมัน ไม่เพียงดูดี แต่ตัวรถเองก็มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำเอาเรื่อง เพียว 0.227 เท่านั้น เพรียวลมกว่ารถเก๋งส่วนมากในท้องตลาดเสียด้วยซ้ำไป ส่ิงนี้จะส่งผลต่ออัตราการบริโภคพลังงานขณะเดินทางไกลได้อย่างชัดเจน

ส่วนใครที่กังวลเรื่องรถยาว จะทำให้ขับลำบาก ก็ต้องบอกว่าไม่ต้องกังวล เพราะมันมาพร้อมระบบช่วยเลี้ยวล้อหลังที่สามารถทำมุมได้มากถึง 5 องศา ทำให้รัศมีวงเลี้ยวเหลือเพียง 5.4 เมตร ไม่ต่างกันรถซีดานทั่วไป และเพื่อให้การเดินทางสุนทรีย์ที่สุด รถรุ่นนี้ยังมาพร้อมช่วงล่างแบบถุงลม (Dual-Chamber Air Suspension) ที่นอกจากจะปรับสูงต่ำได้มากถึง 90 มม. ยังสามารถปรับแข็งอ่อนได้เพื่อรับมือกับถนนในบ้านเรา

แน่นอนว่า การออกแบบห้องโดยสารคือตัวชี้ขาดของรถในกลุ่มนี้ ซึ่ง เอ็กซ์ 9 ทำได้อย่างยอดเยี่ยม เริ่มจากส่วนของผู้ขับขี่ ออกแบบได้เรียบง่ายแต่แฝงความพรีเมี่ยมในรายละเอียด เห็นได้ชัดจากการออกแบบช่องลมเครื่องปรับอากาศแบบไร้แรงลม (Windless) สุดล้ำ แถมทำจากโลหะที่เจาะฉลุอย่างมีรสนิยม และสัมผัสต่างๆในส่วนตอนหน้าทำได้นุ่มเนียนมือ เพราะเป็นหนังแน็ปป้า (Nappa Leather) นอกจากนี้ยังติดตั้งน้ำหอมปรับอากาศอัจฉริยะอีกด้วย แน่นอนว่าการใช้งานหลักๆแล้วจะใช้จอขนาดใหญ่ตามสมัยนิยม ซึ่งต้องทำการทดลองใช้อย่างจริงจังดูก่อนว่าใช้งานได้ดีเพียงใด แต่ในเบื้องต้น ความประทับใจนั้นเป็นไปในทางบวก

ในส่วนของผู้โดยสารในแถวสอง คือตำแหน่งของ “บอส” ประจำรถ เพราะมาพร้อมเบาะนั่งแบบ ซีโร่ กราวิตี้ (Zero Gravity) หรือเบาะไร้แรงโน้มถ่วง ที่มอบความสบายราวกันเรานอนอยู่ในอวกาศ นอกจากจะปรับเอนนอนได้ ยังมาพร้อมที่รองน่องที่ผู้โดยสารไซส์เอเซียจะต้องสบายกับสิ่งนี้แน่นอน แถมยังมาพร้อมกับตู้เย็นที่ใส่น้ำขวดได้ 8 ขวดสบายๆ แถมยังลดอุณหภูมิลงไปจนถึง 0 องศาได้อีกต่างหาก ส่วนด้านระบบความบันเทิง มันยังมาพร้อมกับจอภาพแขวนเพดานขนาดใหญ่ถึง 21.4 นิ้ว แถมยังมาพร้อมระบบเสียงดอลบี้ แอทมอส (Dolby Atmos) 23 ลำโพง ที่สร้างสนามเสียงเหนือศรีษะได้อย่างสมจริง

ส่วนเบาะแถวที่สาม นั้นก็ปรับเอนได้ด้วยไฟฟ้า และหากไม่ต้องการใช้งานก็สามารถพับตลบหลังเก็บลงไปแบนเรียบกับพื้นรถอย่างแนบเนียนด้วยระบบไฟฟ้าเช่นกัน เรียกว่าออกแบบได้อย่างชาญฉลาด ขนถุงกอล์ฟ หรือกระเป๋าเดินทางได้จุใจ

ส่วนแบตเตอรี่ที่มีให้นั้นมาพร้อมสถาปัตยกรรม 800 โวลต์ ที่ทันสมัย ช่วยลดเวลาการชาร์จลงเมื่อเทียบกับระบบทั่วไปถึง 2 เท่า แถมยังรองรับเครื่องชาร์จกระแสตรงพลังสูงได้มากถึง 330 กิโลวัตต์ชั่วโมงอีกด้วย แบตเตอรี่มีความจุมากถึง 101.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง พอเพียงกับการขับไกลถึง 575 กิโลเมตรตามมาตรฐานการวัดแบบ WLTP ส่วนขุมกำลังนั้นเป็นมอเตอร์เดี่ยว 235 กิโลวัตต์ หรือ 315 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า ทำอัตราเร่ง 0-100 ได้ในเวลาเพียง 7.7 วินาที กับความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง เรียกว่า ลงตัวเหมาะเจาะ

ส่วนอุปกรณ์ช่วยด้านการขับขี่อัตโนมัติ และเพิ่มความปลอดภัยนั้นก็จัดให้เต็มพิกัดตามสไตล์รถไฟฟ้าร่วมสมัย สามารถจอดรถแบบไร้คนขับได้ในหลายรูปแบบ

ในขั้นแรกมีให้เลือก 3 สีคือ ขาว ดำ และเงิน โดยรถสีขาวจะมีภายในให้เลือกคือ สีดำและสีน้ำตาลอ่อน ส่วนรถสีเงิน จะมีแต่ภายในสีน้ำตาลอ่อน และรถสีดำนอกจากภายในสีดำ จะมีภายในสีขาวที่สวยโดนใจให้เลือกอีกด้วย ผู้ที่สนใจสามารถชมรถคันจริงได้ที่ โชว์รูม สยามพารากอน และเอ็มสเฟียร์ และในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2024 ที่จะถึงนี้ อ้วนซ่า บอกเลยว่ามันแจ่มจริงขอรับบอส!.